จากกรณีสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพและข้อมูลของนายธรากร ทองหนูนุ้ย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี สามารถสอบติดอันดับ 1 โรงเรียนเตรียมทหารทั้งสามเหล่าทัพ และติดอันดับ 8 เหล่าตำรวจ แต่ไม่มีเงินมอบตัว
ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบอาจารย์ท่านหนึ่งของโรงเรียนเบญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี ได้ข้อมูลของนายธรากร ว่า ประวัติคร่าวๆ ของนายธรากร ทองหนูนุ้ย อายุ 17 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.4 เดิมเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 1 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พ่อชื่อนายประเทือง ทองหนูนุ้ย อายุ 53 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถพ่วง 18 ล้อ แม่ชื่อนางสาวรดาชา ถุงสูงเนิน อายุ 45 ปี ประกอบอาชีพรับจ้าง มีพี่สาวต่างมารดา 2 คน โดยเมื่อปลายปี 2547 พ่อแม่ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะพีพี จ.กระบี่ และย้ายมาทำอาชีพค้าขายต้นกล้ายางพาราที่ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่นายธรากรอายุได้ 6 เดือน โดยทำการเช่าที่และสร้างที่พักชั่วคราวขึ้นมาเพื่ออยู่อาศัย ต่อมาในช่วงปี 2559 ธุรกิจค้าต้นกล้ายางพาราซบเซาอย่างหนักและขาดทุนเป็นอย่างมาก ครอบครัวจึงหันมาทำอาชีพขับรถรับจ้างแทน
ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบอาจารย์ท่านหนึ่งของโรงเรียนเบญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี ได้ข้อมูลของนายธรากร ว่า ประวัติคร่าวๆ ของนายธรากร ทองหนูนุ้ย อายุ 17 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.4 เดิมเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 1 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พ่อชื่อนายประเทือง ทองหนูนุ้ย อายุ 53 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถพ่วง 18 ล้อ แม่ชื่อนางสาวรดาชา ถุงสูงเนิน อายุ 45 ปี ประกอบอาชีพรับจ้าง มีพี่สาวต่างมารดา 2 คน โดยเมื่อปลายปี 2547 พ่อแม่ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะพีพี จ.กระบี่ และย้ายมาทำอาชีพค้าขายต้นกล้ายางพาราที่ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่นายธรากรอายุได้ 6 เดือน โดยทำการเช่าที่และสร้างที่พักชั่วคราวขึ้นมาเพื่ออยู่อาศัย ต่อมาในช่วงปี 2559 ธุรกิจค้าต้นกล้ายางพาราซบเซาอย่างหนักและขาดทุนเป็นอย่างมาก ครอบครัวจึงหันมาทำอาชีพขับรถรับจ้างแทน