เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ถึงแม้ขณะนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงกลางฤดูฝนและเหลือระยะเวลาของฤดูฝนอีกประมาณสองเดือนเศษ แต่พี่น้องประชาชนในบางพื้นที่ยังคงประสบปัญหาปริมาณน้ำต้นทุน ไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร และปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อน อ่างเก็บน้ำต่างๆยังอยู่ในเกณฑ์ปริมาณน้ำน้อย หากไม่มีพายุผ่านเข้ามา จะทำให้เกิดปัญหา ขาดแคลนน้ำต้นทุนเพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งของปีถัดไป และเนื่องจากปีนี้ มีร่องมรสุมเกิดขึ้นน้อยมาก ต่างจากปี 2563 จึงส่งผลให้มีปริมาณฝนค่อนข้างน้อยกว่าปีที่แล้วมาก อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับ กองทัพอากาศและกองทัพบกที่สนับสนุนอากาศยานและกำลังพล เร่งติดตามสภาพอากาศ เพื่อขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งหากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขจะขึ้นบินปฏิบัติการทันที สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.นครสวรรค์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เพชรบุรี สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนลำนางรอง และเขื่อนแก่งกระจาน นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศพบว่า พื้นที่เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในช่วงเช้านี้จึงวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่ -หน่วยฯ จ.เชียงใหม่ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ลำปาง พะเยา -หน่วยฯ จ.ขอนแก่น มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ -หน่วยฯ จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด -หน่วยฯ จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ -หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ โดยมีหน่วยปฏิบัติการจำนวน 3 หน่วยฯ ไม่มีการขึ้นบินปฏิบัติการ ได้แก่ หน่วยฯ จ.ตาก เจ้าหน้าที่งดเข้าสนามบินตั้งแต่วันที่ 6-10 ส.ค. 64 และกักตัวอยู่ในสถานที่ตั้งเพื่อเฝ้าระวัง สังเกตอาการ Covid-19 หน่วยฯ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเจ้าหน้าที่สังเกตอาการผลข้างเคียงจากการเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 และหน่วยฯ จ.สงขลา เนื่องจากเครื่องบินกองทัพอากาศตรวจพิเศษประจำสัปดาห์ อย่างไรก็ตามหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อีก 5 หน่วยปฏิบัติการ จะยังคงติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขในการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และแจ้งข้อมูลข้อมูลเชิงพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น ปริมาณฝน ความต้องการน้ำในการทำการเกษตร ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account: @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100