เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษกบช.น. เปิดเผยการเตรียมความพร้อมในการดูแลการชุมนุมวันที่ 10 ส.ค.ว่า ตามที่มีประกาศชุมนุมทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์โดยเฉพาะวันที่ 10 ส.ค. กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้มีการนัดชุมนุมแยกราชประสงค์เวลา 13.00 น. บช.น. แจ้งเตือนว่าเป็นพื้นที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีการแพร่ระบาดโควิด 19 เป็นจำนวนมาก การรวมตัวด้วยประการหนึ่งประการใด มีการชุมนุมเสี่ยงแพร่ระบาดเชื่อโรค มีความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศห้ามชุมนุม หากมีการกระทำผิดโดยใช้เครื่องเสียง และส่วนที่เกี่ยวข้องส่วนผลการดำเนินคดีนั้น การชักชวนให้การสนับสนุนการชุมนุม การให้การชุมนุมเหล่านี้ถือเป็นการกระทำผิด และจับกุมผู้รับจ้างนำคนเข้ามาชุมนุม การชักชวนผ่านสื่อออนไลน์จะประสานข้อมูลให้บช.สอท. ตรวจสอบ
ส่วนการดำเนินคดีผู้ว่าจ้างการขนคนมาชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ชื่อผู้ว่าจ้างและหลักฐานทางการเงิน มีการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ สืบสวนรับจ้างจากใครมาอีกนั้น การสอบถามการนับจ้างนั้น มาเป็นประจำได้เงินประมาณ 2,000 - 3,000 บาท ส่วนอยู่ในหน้าที่ทางการเมืองหรือไม่ หากเปิดเผยชื่อทุกคนจะรู้จัก ขอสงวนเอาไว้ก่อน ส่วนถังน้ำมันขวางม็อบนั้น การตั้งเครื่องกีดขวางตั้งเท่าที่จำเป็นหมดหน้าที่ก็เคลื่อนตัวออก ส่วนจะเอาถังน้ำมันมาใช่หรือไม่ ขอให้มั่นใจว่าเครื่องกีดขวางอยู่กับตำรวจ ถ้าเป็นอันตรายตำรวจได้รับอันตรายก่อนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนกรณีการชุมนุมได้มีการแจ้งเตือนเป็นระยะ จนถึงแนวป้องกันสุดท้ายห้ามเข้า แต่ถ้าฝ่าแนวกั้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ
ส่วนกรณีเผารถดำเนินคดีขั้นตอนไหน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มีตำรวจบาดเจ็บ 5 นาย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ไปเยี่ยมส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ผบ.หมู่ ร้อย 3 กก.ควบคุมฝูงชน 1 บก.อคฝ. ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 7 ส.ค.64 บริเวณซอยราชวิถี 6 ถูกวัตถุของแข็งยิงเข้าที่บริเวณลำคอ โชคดีหัวกระสุนติดที่ต่อมไทรอยด์ เฉียดหลอมลม หากทำให้ฉีกขาดจะเสียชีวิต ส่วนความเสียหายนั้น มีรถยนต์ 7 คัน รถจยย. 4 คัน ตู้ยามตำรวจ 4 แห่ง ทรัพย์สินประชาชนเสียหาย ประชาชนจะเข้าแจ้งความ ทั้งนี้ ชุดสืบสวนดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการรวบรวมพยานหลักฐาน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนคนที่ก่อเหตุ ส.ต.ต.นิตินัย มีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จะพูดง่ายๆ เหมือนรอบกัด ตำรวจบาดเจ็บอยู่ระหว่างพักคอยปฏิบัติหน้าที่ แล้วถูกกลุ่มผู้ชุมนุมใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงเข้ามา ส่วนการดูแลความสงบการชุมนุมนั้น ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีการสั่งการใช้อุปกรณ์ในการดำเนินการชุมนุม เนื่องจากเป็นสากล สรุปภาพรวมจำนวนคาร์ม็อบ มีการจัดหล่ยพื้นที่ จัดทั้งหมด 7 ครั้งติดตามดำเนินคดีแล้ว
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่าส่วนคาร์ม็อบจัดในพื้นที่ 40 จังหวัดมีคนเข้าร่วม 10,000 คน วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา มีคาร์ม็อบทำกิจกรรม 20 จังหวัด ผู้เข้าร่วม 1,000 คน ตำรวจคดหลักกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจะพิจารณา 2 ส่วนที่มาขับไล่กับกรณีที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย กรณีนักข่าว 2 คน ยื่นร้องศาลแพ่งนั้น ทราบจากสื่อมวลชนมีการยื่นให้ศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราวในการใช้กระสุนยาง ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามหน้าที่ และดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนพื้นที่บช.ภ.1 ผู้มาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองนั้นออกหมสยจับ 9 หมาย จับกุมไปแล้ว 5 ราย และติดต่อขอมอบตัวเพิ่มเติมต่อไป