การคุกคามทางเพศ เป็นปัญหาใหญ่ของโลก ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยไม่นานมานี้ก็มีข่าวโปรดิวเซอร์คนดังของฮอลลีวูดกับดาราสาว ทำให้เห็นว่าในโลกของ "ดารา" ที่ดูสวยสดงดงามนั้น มีหลุมดำ ที่เป็นภัยสำหรับผู้หญิงแฝงอยู่ต้องใช้ร่างกายเข้าแลกกับความมีชื่อเสียงและมีมานานแล้ว ในประเทศไทยหลายวงการก็มีเรื่องเช่นนี้ แต่ที่ฮือฮามากเพราะมีคลิปให้เห็นเป็นหลักฐานมัดตัวผู้กระทำผิด คือ เรื่องของข้าราชการชายแต่งเครื่องแบบ เป็นหัวหน้าหน่วยงาน ลวนลามลูกน้องสาวที่เป็นลูกจ้างเป็นประจำจน "ย่ามใจ" โดยใช้อำนาจในหน้าที่การงาน ข่มขู่ เพื่อให้เกิดการสนองตอบความต้องการ กระทำในเวลา และในสถานที่ราชการอย่างไร้จรรยาบรรณ วันนี้ข้าราชการคนดังกล่าวได้รับโทษ คือไล่ออกจากราชการ ซึ่งถือว่าเป็นโทษทางวินัยที่ร้ายแรงที่สุด ผู้หญิงที่กล้านำเรื่องการถูกคุกคามทางเพศออกมาสู่สังคมให้รับทราบ ต้องยกย่องให้เป็น "ผู้หญิงพลังบวก" กล้าที่จะเปิดโปง จนนำไปสู่การลงโทษ เป็นการช่วยยกระดับสังคมให้สูงขึ้น ขอให้ภูมิใจเพราะยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่โดนย่ำยีแต่อับอาย เกรงกลัวอำนาจ หรืออาจจะสมยอม เพื่อแลกกับประโยชน์ที่จะได้รับทำให้ผู้ชายเกิดความ "ย่ามใจ" (Gloat)นิยามศัพท์คำนี้ หมายถึง อาการเหิมเกริม ชะล่าใจ หรือคำที่ใช้พูดกันว่า ได้ใจนั่นเอง การย่ามใจจึงไม่ได้เป็นอาการที่ป่วยทางจิต เป็นแค่ความเห็นแก่ตัวอยากทำอะไรจนขาดความยับยั้งชั่งใจ เพราะทำแล้วได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจ จึงเกิดพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น พฤติกรรมของเด็กเมื่อต้องการสิ่งใด ถ้าผู้ปกครองขัดใจ เด็กอาจร้องไห้ กระทืบเท้า โวยวาย ฯลฯ ถ้าพฤติกรรมใดทำให้ได้รับผลเป็นที่พอใจ ครั้งต่อไปก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นอีกเป็นเงื่อนไข (Condition) เพราะทำแล้วได้ผล พฤติกรรมที่เกิดจากการตามใจอาจติดตัวไปจนโต แม้แต่ในวงการศาสนาพุทธ ก็มีปัญหามากมายที่เกิดจากการย่ามใจ พระสงฆ์มีเป็นจำนวนมาก ปัญหาก็มีมากเช่นกัน เพราะบางคนไม่ได้ตั้งใจบวชเพื่อสืบสานศาสนา และการบวชก็ทำได้ง่ายๆ คิดจะบวชก็ทำได้โดยทันที ทั้งบวชแบบมีขั้นตอนถูกต้อง และบางคนโกนหัวห่มผ้าเหลืองคือบวชเอง ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพระบางคนยังบอกว่าบวชล้างซวย บวชเพราะไม่มีหนทางทำมาหากิน ภิกษุที่แอบแฝงลักษณะนี้มีมากมายนับแสนรูป เป็นปัญหาที่ทำให้เกิด "วิกฤติศรัทธา" เมื่อห่มผ้าเหลืองก็เกิดอาการ "ย่ามใจ" คิดจะทำอะไรก็ได้ ทั้งขายและเสพสารเสพติดขายเครื่องรางของขลัง ซื้อบริการทางเพศเอาเงินมาปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยกับชาวบ้านจัดไฟแนนซ์รถยนต์ จัดทำกิจกรรมแปลกๆให้คนหลงเชื่อเพื่อหวังเงินทำบุญ ถือเป็นอาชีพที่ใช้ศาสนาบังหน้า ทำให้พระสงฆ์ดีๆ พลอยมัวหมองไปด้วย คนที่มีพฤติกรรม "ย่ามใจ" มักจะคิดว่า ตนมีพลัง และอำนาจเหนือกว่าจะทำอย่างไรกับใครก็ได้ เช่น ครูที่เฆี่ยนตีเด็กเป็นร้อยครั้ง หรือมากกว่านั้น และยังส่งข้อความขอมีเพศสัมพันธ์กับลูกศิษย์ช่างไม่เกรงกลัวกฎหมายเอาเสียเลย ส่วนข่าวเรื่องสามีที่ชอบทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นประจำจนย่ามใจ บ่อยครั้งที่สามีถูกภรรยาฆาตกรรม ทั้งที่ภรรยามีพละกำลังน้อยกว่า เพราะคิดว่าไม่มีทางสู้ เมื่อถึงทางตัน ภรรยาจะใช้อาวุธที่ใกล้ตัวที่สุดเพื่อป้องกันตัว คำพังเพย สอนว่า "อย่ารังแกสุนัขจนตรอก" เป็นการบอกให้รู้ว่าสุนัขที่ถูกรังแกจนไม่มีทางหนี มันจะฮึดสู้จนน่ากลัวเปรียบกับคน ยามใดที่เกิดความตึงเครียดความโกรธ ความตกใจ และอยู่ในภาวะอันตราย ร่างกายจะตื่นตัว พร้อมที่จะสู้(Fight) หรือ จะหนี (Flight) จะพฤติกรรมสุดขั้วทั้งสองกรณี คือ สู้ตาย หรือหนีสุดชีวิตในยามนั้น จะมีตัวช่วยคือ ฮอร์โมนอะดรีนาลิน (Adrenalin) ที่ผลิตมาจากต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) เป็นฮอร์โมนพิเศษที่จะมียามฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มพลัง กระบวนการทำงานนั้นจะช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือด ทำให้มีพละกำลังมากขึ้น เป็นผลให้ร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีพลังเหนือพลังที่ใช้สำหรับป้องกันตนเอง หลายท่านอาจเคยได้ยินได้ฟังว่า คนที่หนียามไฟไหม้ สามารถแบกโอ่งน้ำ หรือวิ่งหนีตำรวจมาจับขณะเล่นไพ่ จะวิ่งได้เร็วผิดปกติ สามารถลงตุ่ม แหวกกอไผ่ได้ แต่เมื่อเหตุการณ์สงบ ไม่สามารถออกมาได้ เพราะไม่มีอะดรีนาลิน จึงขอเตือนพวกที่ชอบ "ย่ามใจ"ระวังตัวไว้ อย่าให้ใครเข้าสู่ทางตัน เพราะอาจทำให้ท่านเองตกม้าตาย หรือตายอย่างเขียดโดยไม่ทันตั้งตัว