วันที่ 8 ส.ค.64 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ตนตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แล้วพบหลายประเด็นที่น่าสงสัย อันเป็นเหตุต้องร้องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไป เช่น นายพิธา แจ้งว่ามีคู่สมรส และคู่สมรสเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่นายพิธากลับไม่แสดงรายได้ รายจ่าย หรือหุ้น ของคู่สมรสต่อ ป.ป.ช. นายพิธา ได้นำอาคารของน้องชายมูลค่า 15,000,000 บาท มาแสดงในบัญชีทรัพย์สินของตนเอง ซึ่งในทางบัญชีควรตรวจสอบว่า ทรัพย์สินรวมที่แจ้งสูงเกินจริง (Overstate assets) หรือไม่ นอกจากนี้ นายพิธาแจ้งที่ดินรายการหนึ่งว่า เป็นที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งแปลกมาก เพราะนายพิธา ไม่น่าจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวได้ แม้จะไม่ได้แจ้ง เลขที่ เนื้อที่ และมูลค่าไว้ก็ตาม แต่การแสดงรายการที่ดินเช่นนี้ อาจเข้าข่ายแจ้งข้อความโดยไม่ตรงความจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายพิธาไม่ได้แจ้งมูลค่าที่ดินและบ้านของคู่สมรสไว้แต่อย่างใด ทั้งนี้ เห็นได้จากมีการแจ้งรายการอาคารของคู่สมรสไว้ด้วยแต่ไม่แสดงมูลค่า ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า คู่สมรสมีอาคารดังกล่าว ซึ่งควรตั้งอยู่บนที่ดิน แต่กลับไม่มีการแจ้งมูลค่าอาคารและที่ดินไว้ ทำให้มีประเด็นที่ควรตรวจสอบทางบัญชีตามมาว่า บัญชีทรัพย์สินรวมของคู่สมรส แสดงไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง (Understate assets) หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า หลักฐานทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนมาจากการตรวจสอบรายการในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินที่นายพิธายื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อคราวรับตำแหน่ง ส.ส. รวมทั้งข่าวในสื่อต่างๆ ดังนั้น จึงมีเหตุที่ต้องร้องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของนายพิธากับคู่สมรส ได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.ไว้นั้น เข้าข่ายตามความใน พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 114 หรือไม่ อนึ่ง ตนยังได้รับข้อมูลที่ขอไว้ในชั้น กมธ.งบประมาณปี 65 ว่ามี ส.ส.และ ส.ว. ยังถือครองที่ดิน ส.ป.ก.อยู่ รวม 5 ราย จึงส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไปด้วย ทั้งนี้ ตนจะส่งคำร้องกรณีนายพิธา รวมทั้งกรณี ส.ส.และ ส.ว. 5 ราย เป็นหนังสือไปถึง ป.ป.ช. เช้าวันที่ 9 ส.ค.นี้ ทางไปรษณีย์