วันนี้ ( 7 ส.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวว่าช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ และ สน.ชนะสงคราม ได้สืบทราบและเข้าตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 1 คันและรถพยาบาล1 คันจากกลุ่มการ์ดวีโว่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน พร้อมของกลาง ประกอบด้วย พลุไฟ สิ่งเทียมวัตถุระเบิด,หัวน๊อต ,หนังสติ๊ก,วิทยุสื่อสาร ,เกราะอ่อนพลาสติก รวมถึงหมวกนิรภัย และหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา น้ำเกลือจำนวนมาก โดยจับกุมยึดรถได้ที่วัดมหรรณพารามวรวิหาร และตรอกข้าวสาร ซึ่งคาดว่าเตรียมใช้ก่อเหตุในการชุมนุมวันนี้ จึงให้เจ้าหน้าที่ ตรวจค้นและจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
โดยมองว่าผู้ต้องหาสามารถที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่พิจารณาตามวัตถุพยานหลักฐานและของการซึ่งถือว่าสอดคล้องกับการสืบสวน โดยตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และข้อหาเป็นอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งกำลังดำเนินการ ติดตามตรวจสอบ บุคคลอื่นๆนอกเหนือจาก 8 รายนี้ เนื่องจากมีอีกหลายจุดในการดำเนินการและมีการชุมนุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรงหรือการตอบโต้ใดๆกับผู้ชุมนุม แต่เป็นการควบคุมสถานการณ์เท่านั้น หากผู้ชุมนุมไม่ก่อเหตุรุนแรงก่อนโดยอุปกรณ์ที่ได้ทำการจับกุมได้เชื่อว่าจะเตรียมก่อเหตุรุนแรงกับเจ้าหน้าที่จริง โดยเมื่อช่วงเช้ามีการยึดรถบรรทุกสิ่งปฏิกูลจำนวน 5 คัน เตรียมเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมแต่ได้ ควบคุมไว้แล้วและยังอยู่ระหว่างสอบสวน
ทั้งนี้การชุมนุมแม้ไม่รุนแรงก็ถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยิ่งมีการนัดหมายเชิญชวนไปที่พระบรมมหาราชวัง เจ้าหน้าที่จึงต้องปกป้องสถานที่สำคัญและสมบัติของชาติที่เราทุกคนต้องปกป้อง เมื่อมีการเปลี่ยนสถานที่ไปบริเวณหน้าบ้านของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บริเวณกองพันทหารราบที่1 ย่านถนนวิภาวดี -รังสิต เจ้าหน้าที่ก็พร้อมดูแลความสงบเรียบร้อย จึงต้องติดตามดูสถานการณ์การชุมนุมอีกครั้งว่าจะซ้ำรอยความรุนแรงในครั้งก่อนหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก็พร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยทำตามหน้าที่ ไม่ได้ส่งสัญญาณท้าทายผู้ชุมนุม
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า มีผู้ไม่หวังดีปล่อยคลิปเสียงการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการ ที่มีเสียงคล้าย ผบ.ตร.และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมา จะมีการตรวจสอบอีกครั้ง