วันที่ 7 สิงหาคม จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากร้องเรียนถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช.) ให้สอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐประกอบด้วยอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด 2 ราย อดีตหัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด 2 ราย ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ปี 2553 – 2563 อาจเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หลังจากสมาชิกสภาเทศบาลเมือง (ส.ท.) ประจวบคีรีขันธ์ มีมติเสียงข้างมากไม่รับมอบ 10 โครงการ มูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมืองยอมรับความบกพร่อง จะเสนอ 10 โครงการให้สภาเทศบาลพิจารณารับมอบอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องในอดีตและปัจจุบันพ้นจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ นั้น ล่าสุดหลังจากกระทรวงมหาดไทยมีโผแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่จะมารับหน้าที่ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ทราบว่าเดิมเป็นวิศวกรโยธาลูกหม้อกรมโยธาธิการฯ ทำให้หลายฝ่ายมีความหวังว่าผู้ว่าฯคนใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาโครงการร้างที่ยืดเยื้อนานกว่า 15 ปี
“ปัญหาที่สภาเทศบาลไม่รับมอบเนื่องจากการทำโครงการทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน หลังจากทำโครงการทั้งหมดเสร็จแล้ว ไม่ได้มอบให้เทศบาลดูแล กระทั่งโครงการส่วนใหญ่มีปัญหาชำรุดทรุดโทรม สร้างความเดือดร้อน มีผลกระทบกับประชาชน แต่สำนักงานโยธาฯไม่มีงบซ่อม แต่กรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัด (สตง.) ไม่เคยชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ” จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว
จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการร้างบางส่วนประกอบด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่เขาช่องกระจก เมื่อ 6 ปี ก่อนใช้งบ 30 ล้าน หน้าศาลากลางจังหวัดสิ่งปลูกสร้างถูกปล่อยร้าง ต่อมาเมื่อ 3 ปีก่อนใช้งบ 16.9 ล้านบาท หน้าศาลากลางจังหวัด ปัจจุบันอาคารจำหน่ายอาหารลิง อากาคารขายสินค้าโอทอปข้างศาลากลางถูกปล่อยทิ้งร้าง ใช้งบ 9.6 ล้านบาทสร้างไบค์เลนเลียบอ่าวประจวบฯระยะทาง 2.9 กิโลเมตร แต่ไม่ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นใช้งบประมาณหลายครั้งมากกว่า 100 ล้านบาท บริเวณชายหาดตลอดแนวถนนสวนสน – อ่าวน้อย อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบตาม พ.ร.บ การเดินเรือในน่านน้ำไทย ของกรมเจ้าท่า เทศบาลไม่สามารถรับมอบโครงการได้ การทำโครงการในค่ายลูกเสือที่ชุมชนม่องล่าย เทศบาลไม่สามารถรับมอบโครงการได้เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของพื้นที่
นายสมบูรณ์ เทพประดิษฐ์ ที่ปรึกษากฎหมาย ประธานสภาเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งแก้ไขปัญหา เพื่อใช้ประโยชน์จากงบพัฒนาจังหวัด งบกรมโยธาธิการจังหวัด ทำโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ในเขตเทศบาลในระยะ 15 ปีที่ผ่านมา บางโครงการถูกปล่อยทิ้งร้าง โดยผู้ว่าฯกำชับให้แก้ปัญหาให้เสร็จก่อนจะเกษียณราชการในเดือนกันยายน 2564 ต่อมาฝ่ายบริหารเทศบาลเชิญ ส.ท. 18 คน ฟังการบรรยายสรุปแนวทางการปรับปรุง 10 โครงการร้าง จากผู้รับเหมารายหนึ่งในทีมผู้บริหารเทศบาล แต่ไม่ได้รับความสนใจจาก ส.ท. เสียงข้างมากและ ส.ท.อิสระ
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2563 โยธาจังหวัดทำหนังสือแจ้งให้เทศบาลรับมอบ 13 โครงการร้าง แต่เทศบาลรับ3 โครงการ จากนั้นในที่ประขุมสภาได้ขอให้กองช่างประสานกับโยธาจังหวัดตั้งกรรมการสำรวจและศึกษา ขณะนั้นนายกเทศมนตรีคนปัจจุบันทำหน้าที่ ส.ท.ได้ร่วมยกมือเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับการรับโครงการ ส่วนการส่งผู้รับเหมามาชี้แจง หากสำนักงานโยธาจังหวัดอ้างว่ามีงบด่วนเพื่อซ่อมก่อนผู้ว่าฯเกษียณ หากมีงบจริงคงไม่มีความจำเป็นต้องสอบถาม ส.ท. หรือ อ้างว่าจะต้องซ่อมตามความต้องการของ ส.ท. เพื่อให้เป็นเงื่อนไขขอให้ยกมือรับมอบโครงการในภายหลัง โดยเฉพาะการปรับปรุงภูมิทัศน์หน้าศาลากลางจังหวัด มีปัญหามานานหลายปี สำนักงานโยธาควรสำรวจสิ่งปลูกสร้างทุกปี เพื่อซ่อมหากทราบว่าไม่มีหน่วยงานใดรับมอบไปดูแล