วันที่ 7 ส.ค.64 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
" ผมพร่ำเตือนมาตั้งแต่ต้นว่า
ไม่ควรประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนานเกินไป เพราะราชการแผ่นดินจะฟั่นเฟือนและความรับผิดชอบจะมาอยู่ที่นายกฯคนเดียว!
ส่วนคนอื่นก็ลอยนวลทั้งหมดเว้นแต่จะได้รับมอบหมาย
เหตุทั้งนี้ เพราะปกติ ประชาชน จะไม่มีฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะฟ้องนายกฯหรือรัฐมนตรีได้
หากมีกรณีมีปัญหาก็ต้องอาศัยองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และตำรวจ
จึงทำให้ผู้มีอำนาจมั่นใจว่าทำอะไรก็ได้ แต่ทันทีที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็กลายเป็นว่า เปิดทางให้ผู้เสียหายทุกคนสามารถฟ้องคดีต่อศาลได้โดยตรงทั้งทางแพ่งและทางอาญา
ขณะนี้ก็มีนักธุรกิจฟ้องเรียกค่าเสียหาย เป็นคดีแรกแล้วเป็นเงิน 200 กว่าล้านบาท สัปดาห์หน้าก็จะมีพรรคการเมืองเป็นผู้แทนประชาชน 700,000 คนฟ้องนายกฯต่อศาลอาญาคดีทุจริต
นั่นก็เป็นเพียงน้ำจิ้มเล็กๆ!!!!
ของจริง คือการที่ผู้ได้รับความเสียหาย จากมาตรการต่างๆ ของ ศบค.จากการเจ็บป่วยและเสียชีวิต นับแสนคน
ที่จะะฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญา และจะเรียงหน้ามานับไม่ถ้วนนับจากนี้ไป!!!
สภาพเช่นนี้ คงยากที่จะนอนหลับได้สบาย! ยาขมมีประโยชน์แต่คนไม่ค่อยกิน
มักจะกินแต่ของหวานจึงเป็นเบาหวานต้องตัดแขนตัดขาไงล่ะครับ!!!
ใครอย่าอุตริคิดออกกฎหมายนิรโทษกรรมเรื่องนี้ก็แล้วกันอายเขา เพราะทำไม่สำเร็จหรอก และจะเป็นโมฆะด้วย!!!"