ทำเอาแตกตื่น วัดสว่างอารมณ์ อ.เมืองบุรีรัมย์ เพิ่งเผาศพชายติดโควิด เสียชีวิตรายแรก น้ำหนักกว่า 150 กก. น้ำมันจากศพไหลออกนอกเตาเกิดไฟไหม้ระบบเตาเผาและเมรุเสียหาย ทำ จนท. สัปเหร่อ ต่างตกใจ เพราะเมรุเปิดใช้มาเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีปัญหา
วันนี้ (7 ส.ค.64) เมื่อเย็นวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้เมรุเผาศพ ภายในวัดสว่างอารมณ์ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานหน่วยกู้ชีพ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลอิสาณ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณเตาเผาและเมรุ ซึ่งกำลังเผาศพของชาย อายุ 35 ปี ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ศพดังกล่าว มีน้ำหนักมากกว่า 150 กิโลกรัม ทำให้น้ำมันจากศพไหลออกนอกเตาเผาจึงเกิดไฟลุกลามไหม้ ทั้งระบบเตาเผา และเมรุ จนได้รับความเสียหาย ไม่สามารถปิดประตูเตาเผาได้ สร้างความตื่นตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ สัปเหร่อ และพระ ที่มาเฝ้าดูความเรียบร้อยในการฌาปนกิจศพ
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ชีพ ก็ไม่สามารถจะฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้เตาเผาและเมรุได้ เนื่องจากศพติดเชื้อโควิดและยังไหม้ไม่หมดไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปเผาที่อื่นได้ จึงทำได้แค่ตัดระบบไฟฟ้า และเผาด้วยน้ำมัน แต่หากศพยังไหม้ไม่หมดก็จะต้องหาฟืนมาเติมจนกว่าจะไหม้หมด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง แล้วเมื่อไหม้หมดแล้วถึงจะทำการดับไฟได้
นายศรีชล อบเชย เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลอิสาณ บอกว่า ขณะกำลังทำการเผาศพของชายที่เสียชีวิตด้วยการติดเชื้อโควิด ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ที่ถูกส่งมาจาก รพ.บุรีรัมย์ จู่ๆ น้ำมันจากศพก็ไหลออกมานอกเตาทำให้เกิดไฟลุกลาม ทั้งเตาเผา ระบบไฟฟ้า และเมรุ จนได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่สามารถฉีดน้ำดับไฟได้ต้องปล่อยให้ไฟไหม้ศพจนหมดก่อน ซึ่งปกติจะใช้ในการเผาศพ ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เนื่องจากศพนี้รูปร่างใหญ่อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 – 4 ชั่วโมง แต่ก็คงทำให้เตาเผาและเมรุได้รับความเสียหายเช่นกัน
ด้านนายประจักษ์ เขียมรัมย์ อายุ 64 ปี สัปเหร่อประจำวัด บอกว่า หลังจากเผาศพได้ประมาณ 20 นาที น้ำมันจากศพก็ไหลย้อนออกมานอกเตาเผา จึงทำให้ไฟลามไหม้สายไฟและกระเบื้องหน้าเตาเผาแตกเสียหาย รวมไปถึงเมรุบางส่วนด้วย แต่สิ่งที่กังวลคือต้องหาวิธีเผาศพให้ไหม้จนหมดเพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปเผาที่อื่นได้
ทางด้านพระครูปริยัติ ธรรมปหัฎฐ์ เจ้าอาวาส บอกว่า เมรุดังกล่าวสร้างมาเกือบ 10 ปีแล้วหลังจากเปิดใช้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ศพนี้เป็นศพแรกที่เป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ที่นำมาเผาที่วัด เนื่องจากวัดในตัวเมืองไม่ว่าง โดยเจ้าหน้าที่จากทาง รพ.ได้มาประสานว่ามีศพผู้ติดเชื้อโควิดจะนำมาเผาที่วัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวด แต่เนื่องจากศพผู้เสียชีวิตรายนี้น้ำหนักมากกว่า 150 กิโลกรัม จึงทำให้น้ำมันจากศพไหลล้นออกมานอกเตา จนทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งเมรุดังกล่าวใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1 ล้านบาท หลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ก็คงไม่สามารถใช้เผาศพได้ชั่วคราว จนกว่าจะมีงบมาซ่อมแซมซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเสียหายมากน้อยขนาดไหน ต้องรอประเมินอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ชีพ ก็ไม่สามารถจะฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้เตาเผาและเมรุได้ เนื่องจากศพติดเชื้อโควิดและยังไหม้ไม่หมดไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปเผาที่อื่นได้ จึงทำได้แค่ตัดระบบไฟฟ้า และเผาด้วยน้ำมัน แต่หากศพยังไหม้ไม่หมดก็จะต้องหาฟืนมาเติมจนกว่าจะไหม้หมด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง แล้วเมื่อไหม้หมดแล้วถึงจะทำการดับไฟได้
นายศรีชล อบเชย เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลอิสาณ บอกว่า ขณะกำลังทำการเผาศพของชายที่เสียชีวิตด้วยการติดเชื้อโควิด ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ที่ถูกส่งมาจาก รพ.บุรีรัมย์ จู่ๆ น้ำมันจากศพก็ไหลออกมานอกเตาทำให้เกิดไฟลุกลาม ทั้งเตาเผา ระบบไฟฟ้า และเมรุ จนได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่สามารถฉีดน้ำดับไฟได้ต้องปล่อยให้ไฟไหม้ศพจนหมดก่อน ซึ่งปกติจะใช้ในการเผาศพ ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เนื่องจากศพนี้รูปร่างใหญ่อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 – 4 ชั่วโมง แต่ก็คงทำให้เตาเผาและเมรุได้รับความเสียหายเช่นกัน
ด้านนายประจักษ์ เขียมรัมย์ อายุ 64 ปี สัปเหร่อประจำวัด บอกว่า หลังจากเผาศพได้ประมาณ 20 นาที น้ำมันจากศพก็ไหลย้อนออกมานอกเตาเผา จึงทำให้ไฟลามไหม้สายไฟและกระเบื้องหน้าเตาเผาแตกเสียหาย รวมไปถึงเมรุบางส่วนด้วย แต่สิ่งที่กังวลคือต้องหาวิธีเผาศพให้ไหม้จนหมดเพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปเผาที่อื่นได้
ทางด้านพระครูปริยัติ ธรรมปหัฎฐ์ เจ้าอาวาส บอกว่า เมรุดังกล่าวสร้างมาเกือบ 10 ปีแล้วหลังจากเปิดใช้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ศพนี้เป็นศพแรกที่เป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ที่นำมาเผาที่วัด เนื่องจากวัดในตัวเมืองไม่ว่าง โดยเจ้าหน้าที่จากทาง รพ.ได้มาประสานว่ามีศพผู้ติดเชื้อโควิดจะนำมาเผาที่วัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวด แต่เนื่องจากศพผู้เสียชีวิตรายนี้น้ำหนักมากกว่า 150 กิโลกรัม จึงทำให้น้ำมันจากศพไหลล้นออกมานอกเตา จนทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งเมรุดังกล่าวใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1 ล้านบาท หลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ก็คงไม่สามารถใช้เผาศพได้ชั่วคราว จนกว่าจะมีงบมาซ่อมแซมซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเสียหายมากน้อยขนาดไหน ต้องรอประเมินอีกครั้ง