เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 6 ส.ค.64 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7)พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.อ.ภาคิน แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมพล สังต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ
แถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.กีต้า นกน้อย “หรือกีต้า ชะแล” อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/24 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และนายขำทรัพย์ อายุ 50 ปี 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ในคดีฐาน ช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภาค 7 แถลงว่า ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจโทธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
ให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนเข้มงวดกวดขัน จับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนี เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยให้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอย่างเด็ดขาดทุกราย และให้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการป้องกัน และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งอาจจะติดมาจากบุคคลต่างด้าวดังกล่าว
สภ.สังขละบุรี สภ.ทองผาภูมิ ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.134 เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันบูรณาการด้านการข่าวและวิเคราะห์เส้นทางของบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทั้งการตั้งจุดตรวจร่วมในอำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ การเดินเท้าตามเส้นทางธรรมชาติ และการตรวจสอบเส้นทางน้ำ เพื่อสกัดกั้นจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง
โดยทุกหน่วยงานได้บูรณาการด้านการข่าวและบูรณาการจัดกำลังพลแต่ละหน่วยร่วมดำเนินการออกสกัดกั้นทำการจับกุมอย่างจริงจัง และขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนทำให้สามารถจับกุมเครือข่ายลักลอบช่วยเหลือซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวฯ ดังนี้
สภ.สังขละบุรี ขยายผลจับกุม เครือข่าย “กีต้า ชะแล” สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 เวลา 01.15 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุม นายวิมล กาญจนศักดิ์สกุล และ นายอัครเดช สอนเครือ ในความผิดฐาน ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายฯ พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าว จำนวน 6 คน เหตุเกิดบริเวณจุดควบคุมการ เข้า – ออก บริเวณหมวดการทาง สังขละบุรี ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
จากการสืบสวนขยายผลกรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลจังหวัดทองผาภูมิ ออกหมายจับ น.ส.กีต้า นกน้อย อายุ 33 ปี ในความผิดฐาน ช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม ตามหมายจับศาลจังหวัด ทองผาภูมิ ที่ จ.56/2564 ลง 2 ส.ค.64
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุม น.ส.กีต้า นกน้อย ได้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 เวลา 15.30 น. ที่บริเวณบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จว.กาญจนบุรี นอกจากนี้ยังสามารถล่อซื้อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 6 เม็ด จึงได้ร่วมกันจับกุม น.ส.กีต้าฯ ในความผิดฐาน จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
สภ.ทองผาภูมิ ขยายผลจับกุม เครือข่าย “นายเขมชาติ” สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม นายอำพรรณ บรรณนาการ ในความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายฯ พร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวจำนวน 16 คน และเมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 ได้ร่วมกันจับกุม นายวินัย ขำพวง ในความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายฯ พร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวจำนวน 14 คน
จากการสืบสวนขยายผลทั้ง 2 กรณี ดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดทองผาภูมิ ออกหมายจับ นายเขมชาติ ขำทรัพย์ อายุ 50 ปี ในความผิดฐาน ช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม ตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ จ.53/2564 ลง 20 ก.ค.64 ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุม นายเขมชาติ ขำทรัพย์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.64 เวลา 11.20 น. ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 23/8 ม.13 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จว.กาญจนบุรี ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และ การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว อาจนำพา เชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 หรือโรค COVID - 19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 7 โดยตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน หากพบเห็น หรือทราบเบาะแสของเครือข่าย หรือขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขอให้ท่านโปรดแจ้งเบาะแส ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หรือผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจะได้ช่วยกันปราบปรามสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป