กมธ.งบประมาณปี65 วงเงิน 3.1ล้านล้าน  พิจารณาเสร็จครบ 100%   ปรับลดลง 16,362,010,100 บาท เอาไปไว้ “งบกลาง”ให้รัฐบาลใช้แก้ปัญหา – เยียวยา ความเดือดร้อน ปชช. จากโควิด-19  เท่านั้น เตรียมส่ง “ชวน” ถกวาระ2-3 วนที่ 18-20 ส.ค.นี้ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์  และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 แถลงผลการประชุม ว่า วันนี้เป็นการประชุม กมธ. ครั้งสุดท้าย โดยในการพิจารณางบประมาณที่ผ่านมา กมธ. ใช้เวลาไปแล้ว 30 วัน คิดเป็น 270 ชั่วโมง รวมหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 20 กระทรวง 5 กลุ่มหน่วยงาน 29 กองทุน 11 แผนบูรณาการ คิดเป็น 100 % จากงบประมาณ ทั้งสิ้น 3,100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หลังจากที่กมธ. ได้พิจารณางบประมาณในภาพรวมทั้งหมดแล้ว มีข้อสังเกตว่า เนื่องจากในปีนี้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลงอย่างมาก ตามสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้รัฐบาลเสนอกรอบวงเงินงบประมาณปี 65 จำนวน 3,100,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากวงเงินงบประมาณปี 64 ถึง 185,962 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.66 ทำให้ในปีนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณ “แบบขาดดุล” รวมทั้งมีการกู้ชดเชยการขาดดุลสูงถึง 700,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่สามารถขาดดุลได้ตามพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งทำให้แทบทุกหน่วยงานถูกปรับลดงบประมาณลง ไม่เว้นแม้แต่กระทรวงสาธารณสุขที่ทำหน้าที่หลักในการแก้ปัญหา และควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ถูกปรับลดงบประมาณลงเช่นเดียวกัน นายจิรายุ กล่าวต่อว่า กมธ. ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นอันดับแรก เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้และเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไข รวมทั้งเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละหน่วยงานมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งกมธ.จึงได้มีการพิจารณาปรับลดงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติมอีกจำนวน 16,362,010,100 บาท โดยที่ประชุมได้มีมติให้นำงบประมาณในส่วนนี้ไปไว้ใน งบกลางรายการค่าใช้จ่ายการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” เพื่อให้รัฐบาลนำงบประมาณในส่วนนี้ไปช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน ทั้งนี้ กมธ.ไม่ได้ปรับลดงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด มาตรา 28 สภากาชาดไทย มาตรา 35 และส่วนราชการในพระองค์ มาตรา 36 โดยในส่วนของงบประมาณที่ปรับลดจำนวน 16,362,010,100 บาท ซึ่งจะนำไปเป็นงบประมาณในงบกลางนั้นเป็นการป้องกัน การนำงบประมาณไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ “ทางกมธ.งบประมาณได้มีข้อสังเกตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า การใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ของรัฐบาล ให้นำไปใช้ในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคตามที่มีการเสนองบประมาณเพิ่มเติมอย่างแท้จริงเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้ในเรื่องอื่นๆ ดังนั้น ในกระบวนการอนุมัติเพื่อใช้จ่ายงบประมาณในงบกลางของรัฐบาล ควรระบุรายละเอียดโครงการให้ชัดเจน เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณ มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ” นายจิรายุ กล่าว และว่า  ทั้งนี้ทางกมธ.จะได้มีการตรวจรายงานของทั้งหมด เพื่อเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สำหรับการพิจารณาในวาระ2 และ 3 ซึ่งจะมีการพิจารณาในวันที่ 18-20 ส.ค.64 นี้ ต่อไป