วันที่ 6 ส.ค.64 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้ ทุกคนรู้ถึงเจตนาของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมดีว่าต้องการอะไร ซึ่งไม่ใช่เป็นการชุมนุมเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะถ้าจุดหมายเป็นไปเพื่อประชาธิปไตยแล้ว ผู้ชุมนุมก็จะต้องมีความจริงใจในการทำให้ประเทศมุ่งไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่กระทำนั้นกลับกระทำการที่สวนทางกันทั้งหมด
โดยจะเห็นว่าจุดมุ่งหมายหลักของแกนนำผู้ชุมนุม มีทั้งการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่ คุกคาม ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน และประชาชนมองออกว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ นับวันยิ่งเหิมเกริม ทำแต่สิ่งที่ไม่สมควร เชื่อมั่นว่าเป็นสิ่งที่คนไทยไม่สามารถรับได้อย่างแน่นอน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ได้มีหลักในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามหลักการที่ถูกต้อง หากมีการกระทำความผิดชัดเจน เข้าองค์ประกอบกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ผู้ชุมนุมควรยุติการกระทำต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เพราะประเทศนี้ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ประเทศเป็นของคนไทยทุกคน ที่สำคัญคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ล้วนเป็นสิ่งที่คนไทยยึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หากใครคิดทำลายสถาบันหลักของชาติก็เชื่อว่าไม่มีใครสามารถยอมรับความคิดและการกระทำของผู้ชุมนุมที่แสดงออกมา และตนก็เคยบอกไปเสมอว่าถ้ามีการก้าวล่วงสถาบัน เราจะอยู่คนละข้างกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา รวมทั้งที่ผ่านมาก็มีข้อมูลสนับสนุนชัดเจนว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคให้ท้ายสนับสนุนด้วย ดังนั้นหากวันที่ 7 สิงหาจะมีผู้ชุมนุมคิดก้าวล้ำทำร้ายจิตใจคนไทย ก็ขอให้หยุดความคิดและการกระทำดังกล่าว แต่ถ้าผู้ชุมนุมกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผลของกฎหมายที่จะตามมาเช่นกันทุกกรณี