วันที่ 6 ส.ค.ที่ ภ.จว.น่าน พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่านตามปรากฏภาพข่าวเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ (สปป.3) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ท่อนจำนวน 7 ท่อน ปริมาตร 0.94 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหาย 32,900 บาท พร้อมรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์เงิน มีแถบข้างสีเลือดหมู ทะเบียน ฮษ 9984 กทม จำนวน 1 คัน นั้น
ขอเรียนว่าที่ปรากฏตามภาพข่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 19.16 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปราม ในพื้นที่รับผิดชอบที่หมู่ 17 ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ตรวจสอบรถตู้ที่จอดทิ้งไว้ พบว่าเป็นรถตู้ที่ใช้ปฏิบัติในราชการตำรวจของสถานีตำรวจภูธรนาหมื่น อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ด้านข้างมีสติกเกอร์คำว่า POLICE ด้านในพบท่อนไม้ 7 ท่อน อยู่ภายในห้องโดยสาร โดยได้ถอดเบาะออกทั้งหมดคงเหลือเพียงแค่ที่นั่งของคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า เจ้าหน้าที่ได้ใช้ดวงตราตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ประดู่ท่อนทั้ง 2 ด้านทุกท่อน พร้อมตรวจยึดรถตู้คันดังกล่าวไว้เป็นของกลางทั้งหมด และนำส่ง ร้อยตำรวจเอกวินัย โนติ้บ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนาหมื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี พันตำรวจเอกวินัย เกตุพันธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่านเป็นประธานกรรมการ และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก. สภ.นาหมื่น รายงานชี้แจงข้อเท็จจริงในวันรุ่งขึ้น และได้รับรายงานว่าขณะเกิดเหตุ นายวรพจน์ ทะนะยะ ซึ่งเป็นผู้รับจ้าง ทำหน้าที่ภารโรง อยู่ที่ สภ.นาหมื่น ได้นำรถยนต์ตู้คันดังกล่าว ไปซื้อปลาที่หมู่บ้านประมงปากนาย ที่เกิดเหตุ เพื่อจะนำมาประกอบอาหารกลางวัน ในวันประชุมประจำเดือน ของ สถานีตำรวจภูธรนาหมื่น ในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 แต่นายวรพจน์ฯ กลับนำรถยนต์ตู้คันดังกล่าว ไปทำการขนไม้ท่อนโดยผิดกฎหมาย ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน พร้อมพวก เข้าตรวจยึดไม้ท่อนและรถยนต์ตู้คันดังกล่าวไว้เป็นของกลาง ขณะเจ้าหน้าที่ฯ พบการกระทำความผิดนั้น นายวรพจน์ ได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปดำเนินคดีกับนายวรพจน์ฯและผู้กระทำผิดอื่นตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ได้มีนโยบายสั่งการและกำชับมิให้ข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า และได้กำชับให้หัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานี กำกับ ดูแล มิให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด มิให้มีการเอาทรัพย์สินของทางราชการไปใช้ในการกระทำผิด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจไม่ควบคุมการปฏิบัติตามข้อสั่งการ ข้อกำชับอย่างเคร่งครัด จึงได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ที่ 427/2564 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ให้ พันตำรวจเอกวันชัย ตันพิทักษ์สกุล ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรนาหมื่น ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เข้าไปตรวจสอบ เพื่อความถูกต้องโปร่งใสและเที่ยงธรรมต่อไป