วันที่ 5 ส.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมก.ตร.ครั้งที่ 8/2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล จากทำเนียบรัฐบาล มายังห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จากนั้นเวลา 14.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมก.ต.ช.ครั้งที่ 5/2564 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องจริยธรรมและคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ เนื่องจากข้าราชการตำรวจเป็นข้าราชการที่มีวินัย ดังนั้นการแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นทางสื่อต่างๆ อยากให้คำนึงถึงระเบียบของทางราชการ และคำนึงถึงภาพพจน์ที่จะกระทบต่อองค์กร ส่วนการกระชุมในวันนี้มีวาระสำคัญ คือการพิจารณาในการเพิ่มตำแหน่งบุคคลกรทางการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ของ กองพิสูจน์หลักฐาน โดยกำหนด ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ(สบ8) เทียบเท่า ผบช. 1 ตำแหน่ง และผู้เชี่ยวชาญ(สบ7) เทียบเท่ารอง ผบช. 1 ตำแหน่ง ให้กับสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และกำหนดตำแหน่ง นายแพทย์ (สบ7) 5 ตำแหน่ง ให้กับหน่วยงาน รพ.ตร.จากนั้นจึงได้มีการขออนุมัติจำนวนตำแหน่งจากก.ต.ช.ซึ่งมีการอนุมัติตามมติของก.ตร. พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า การดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่มีคำสั่งให้ทุเลากรณีของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ทางที่ประชุมก.ตร.รับทราบและดำเนินการตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง โดยเป็นแค่การกำหนดตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.เพิ่มขึ้นมา ส่วนใครจะเป็นตำแหน่งอะไรยังไม่มีการพูดถึงในที่ประชุมครั้งนี้ การเปิดตำแหน่งครั้งนี้เป็นการเปิดขึ้นมาชั่วคราว เพื่อรองรับคำสั่งศาลปกครองกลางเท่านั้น อีกทั้งกรณีนี้จะไม่มีผลต่อการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2564 ย้ำว่าการเปิดตำแหน่งยังไม่มีการพูดถึงตัวบุคคล ว่าใครมาดำรงตำแหน่งที่เปิดขึ้นมาใหม่ เพียงแต่พูดถึงตำแหน่งที่เปิดเพิ่ม สำหรับกรณีพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา(สบ 9 ) มีหนังสือถึงก.ตร.ขอให้พิจารณายกเลิกการกำหนดเงื่อนไขที่ปรึกษา (สบ9) กรณีนี้ก.ตร.พิจารณาแล้วเห็นว่า ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ9) ไม่ได้ปิดกั้นการเจริญก้าวหน้าแต่อย่างใด เป็นตำแหน่งที่สามารถและมีโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งใดๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้