การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว2020 ที่โกกุกิกัง อารีน่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รุ่นน้ำหนัก 60 กก.หญิง รอบรองชนะเลิศ "แต้ว" สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวชาวไทย เปิดใจหลังพ่ายให้กับ "เคลลี่ แฮร์ริงตัน" แชมป์โลก และเป็นเต็งหนึ่ง ในการคว้าเหรียญทอง รุ่นน้ำหนัก 60 กก.หญิง ว่า พอใจกับผลงานในรอบนี้แล้ว เพราะถือว่าตัวเองได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แม้ผลการตัดสินที่ออกมาจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ก็ต้องว่ากันไปตามเกม ส่วนคะแนนที่ออกมา 2-3 เสียง ก็ถือว่าดี ถือว่าสูสีมาก และเมื่อดูตามฟอร์มที่ต่อย ก็ต้องบอกว่าไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ และคู่ชกไอร์แลนด์คนนี้ก็เป็นมวยที่ชกยาก เพราะเป็นมวยสเต็ปดี และต่อยยาว ซึ่งจุดที่ทำให้เขามีคะแนนเหนือกว่าก็อาจเป็นเพราะเขาเป็นมวยที่ต่อยยาว แล้วสเต็ปออก ซึ่งก็ทำให้ต่อยยากมากๆ "จบการแข่งขันแล้วก็ไม่ได้รู้คาใจอะไร ที่ต้องทำต่อไปก็คือ ต้องกลับไปปรับตัวเราเอง และถ้ากลับไปแล้ว เราก็ต้องดูร่างกายก่อนว่ายังไหวไหม ถ้าไหวก็เดี๋ยวกลับมาสู้ต่อที่ปารีส" สุดาพร กล่าวอีกว่า ก่อนชกได้โทรคุยกับแม่เพื่อขอพร ซึ่งแม่ก็บอกให้ทำเต็มที่ ผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอให้ทำเต็มที่พอ สุดท้ายหนูอยากขอบคุณแฟนกีฬาไทยทุกคนที่ส่งแรงใจมาเชียร์หนูในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคม ผู้ฝึกสอนมวยทุกคนที่อยู่เบื้องหลังในความสำเร็จของหนูในครั้งนี้ค่ะ ส่วนเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้สำหรับ "น้องแต้ว" เบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 4.8 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี รวมทั้งยังได้รับเงินอัดฉีดพิเศษจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญโอลิมปิกเกมส์เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี เหรียญทอง เดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท โดยสุดาพรจะได้รับเงินเดือน 8,000 บาท รวมเป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นเงิน 1,920,000 บาท รวมทั้งสิ้นน้องแต้วรับเงินรางวัลอัดฉีดเบื้องต้นแล้ว 8,720,000 บาท