รถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลก ฟอร์ด มัสแตง เพิ่มสีใหม่ สีเทา คาร์บอนไนซ์ เกรย์ เสริมมาดเข้มสไตล์สปอร์ต พร้อมวางจำหน่ายสำหรับลูกค้าในประเทศไทย 2 รุ่น คือรุ่นเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5 ลิตร และรุ่นเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 2.3 ลิตร นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ดต่อยอดความสำเร็จและการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าที่หลงใหลในเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตยอดนิยม ด้วยการปรับโฉมฟอร์ด มัสแตง ด้วยสีใหม่ ที่ยังมาพร้อมสมรรถนะยอดเยี่ยม เครื่องยนต์อันทรงพลัง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะและออปชั่นเสริมที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบและความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยว มาพร้อมตัวเลือกขุมพลังเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร และ เครื่องยนต์อีโคบูสต์ขนาด 2.3 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยแพดเดิลชิฟต์ ฟอร์ด มัสแตง ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2561 เราภูมิใจนำเสนอรถสปอร์ตอเมริกันระดับตำนานในประเทศไทย พร้อมเพิ่มตัวเลือกสีเทาใหม่ คาร์บอนไนซ์ เกรย์ ที่เน้นความเท่ เข้ม สะดุดตา ฟอร์ด มัสแตง รุ่นนี้ยังคงเป็นรถที่ครบครันด้วยสมรรถนะและดีไซน์ปราดเปรียวอันเป็นเอกลักษณ์ สมกับตำแหน่งรถสปอร์ตคูเป้ที่ขายดีที่สุดในโลก 6 ปีซ้อน การตกแต่งภายนอกอันโฉบเฉี่ยว ฟอร์ด มัสแตง ทั้งสองรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มาพร้อมชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip มอบความสนุกในการขับขี่บนเส้นทางคดเคี้ยว กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์เพิ่มการยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น ท่อไอเสีย 4 ท่อพร้อมรองรับความแรงของเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร และมีสปอยเลอร์เป็นมาตรฐานในรุ่น GT ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED ไฟเลี้ยวและไฟท้าย 3 แถวอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด มัสแตง มาพร้อมเทคโนโลยีไฟ LED ในขณะที่ฝาไฟหน้าออกแบบเพื่อสอดรับกับทรงสี่เหลี่ยมคางหมูของกระจังหน้าชิ้นบนอย่างลงตัว สุดยอดสมรรถนะ เครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร ของฟอร์ด ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบพละกำลังเร้าใจในการขับขี่ และรอบเครื่อง red line สูง ด้วยระบบหัวฉีดสองระบบ (Dual-Fuel) ที่ผสานระบบไดเร็กอินเจ็กชั่นแรงดันสูง (High-Pressure Direct Injection) และระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ (Low-Pressure Port Fuel Injection) จึงให้กำลังสูงสุดถึง 449 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ขณะที่เครื่องยนต์อีโคบูสต์ ขนาด 2.3 ลิตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากกว่า มอบขุมพลังสูงสุด 290 แรงม้าที่ 5,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ฟอร์ด มัสแตง ยังมีระบบ Electronic Line Lock ช่วยให้ผู้ขับขี่เบิร์นยางคู่หลังได้อย่างง่ายดาย พร้อมสำหรับการแข่งทางตรง (drag strip) ซึ่งระบบนี้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งในรุ่นเครื่องยนต์โคบูสต์ 2.3 ลิตร และรุ่นเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร วีอี8 GT Coupe ฟอร์ด มัสแตง มาพร้อมโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว การตอบสนองของคันเร่ง รูปแบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัยและการทำงานโหมดปรับระดับความดังของชุดท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust System ให้เหมาะกับการขับขี่แบบต่างๆ ได้แก่ 1.โหมดปกติ (Normal) สร้างความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและการตอบสนองที่ฉับไว เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น 2.โหมดสปอร์ต (Sport) ปรับการทำงานของคันเร่งและระบบบังคับเลี้ยวให้ตอบสนองเร็วขึ้น รวมถึงปรับการเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สัมผัสสมรรถนะในการขับขี่บนเส้นทางที่คดเคี้ยวได้อย่างเต็มพลัง3.โหมดแทร็ค (Track) ออกแบบมาเพื่อนักขับตัวจริงที่ต้องการนำฟอร์ด มัสแตง เข้าไปโลดแล่นในสนามแข่งซึ่งตัวรถจะต้องตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ระบบเสถียรภาพการทรงตัวจึงถูกปิดการทำงาน และมีการปรับคันเร่งให้ไวยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่รีดสมรรถนะของฟอร์ด มัสแตง ได้ถึงขีดสุด 4.โหมดหิมะ/พื้นเปียก (Snow/Wet) ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้นเมื่อพื้นผิวถนนลื่น ระบบจะควบคุมให้การตอบสนองของคันเร่งช้าลงเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรีหรือลื่นไถล โดยที่ผู้ขับขี่ยังสามารถสัมผัสกับสมรรถนะของฟอร์ด มัสแตง ได้อย่างเต็มที่ 5.โหมดแข่งทางตรง (Drag Strip) เพื่อการขับขี่อย่างเต็มที่บนทางตรง ระบบจะช่วยให้รถออกตัวได้เร็วกว่าปกติ ด้วยการลดช่วงเวลาการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้แรงบิดถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการยึดเกาะถนนขณะออกตัว และ 6.โหมด My Mode ให้ผู้ขับขี่เลือกตั้งค่าสมรรถนะการขับขี่และเสียงท่อไอเสียได้ตามต้องการ ฟอร์ด มัสแตง ยังมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ด้วยสวิตช์ปรับน้ำหนักพวงมาลัยที่ปรับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.แบบคอมฟอร์ท (Comfort) พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบาขึ้น เหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกล เพื่อลดความเมื่อยล้าในการควบคุมพวงมาลัยเป็นระยะเวลานาน 2.แบบปกติ (Normal) เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน และ 3.แบบสปอร์ต (Sport) พวงมาลัยจะมีน้ำหนักมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ขณะใช้ความเร็วสูง ฟอร์ด มัสแตง ยังมี Quiet Mode ที่เป็นมิตรต่อเพื่อนบ้าน สามารถตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบได้ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อลดการรบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้คนในชุมชน โดยเฉพาะเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์วี 8 ขนาด 5.0 ลิตร อันทรงพลังในตอนเช้าตรู่ ห้องโดยสารภายในหรูหรา สะดวกสบาย มัสแตง ตกแต่งอย่างหรูหราทันสมัยด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย พร้อมแผงหน้าปัดแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว แสดงข้อมูลที่เหมาะสมกับโหมดขับขี่แต่ละโหมด ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกการใช้งาน นอกจากนี้ เมื่อใช้งานฟีเจอร์ Electronic Line Lock ผู้ขับขี่ยังจะเห็นแอนิเมชั่นแบบวิดีโอเกมเป็นครั้งแรกบนหน้าจอ 12.4 นิ้วอีกด้วย มัสแตงยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงภายใน SYNC3 พร้อมเชื่อมต่อและควบคุมสมาร์ทโฟน ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม พร้อมลำโพง 12 จุด สร้างพลังเสียงสุดกระหึ่มเพื่อเอาใจคนรักเสียงดนตรี ระบบนำทาง และระบบปรับอากาศด้วยการสั่งงานด้วยเสียงและการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว โดยระบบ SYNC3 รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto™ เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย มัสแตง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรง และในบางกรณียังสามารถลดอัตราการชนยานพาหนะหรือคนเดินถนนจากด้านหน้ารถได้ รวมถึงระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) และระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัจฉริยะ (Auto Hight Beam Control) ฟอร์ด มัสแตง ที่จำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีส้ม ทวิสต์ ออเรนจ์ (Twist Orange) สีน้ำเงิน เวโลซิตี้ บลู (Velocity Blue) สีแดง เรซ เรด (Race Red) และใหม่ล่าสุด สีเทา คาร์บอนไนซ์ เกรย์ (Carbonized Grey) ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดราคา มัสแตง ทั้งสองรุ่นมีดังนี้ รุ่น 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack อยู่ที่ราคา 4,799,000 บาท และ รุ่น 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack อยู่ที่ราคา 3,599,000 บาท