เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายธวเดช ภาจิตรภิรมย์ หัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ แสดงความกังวลเป็นห่วงเศรษฐกิจท่องเทียว โดยระบุว่า ในสถานการณ์โควิด-19ระบาดต่อเนื่องมาเกือบจะสองปี เศรษฐกิจในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก อีกหนึ่งแห่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ผ่านมา หาดใหญ่เป็นเมืองเศรฐกิจและเมืองแห่งการศึกษาที่คึกคักยิ่ง ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายใช้สอยอย่างมหาศาล ใกล้หน่อยก็มาเลเซีย ไกลหน่อยก็ชาวจีนและตะวันออกกลาง นอกนั้นก็เป็นคนจากจังหวัดรอบๆที่มาหาซื้อของสารพัดชนิด ส่วนบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ถือว่ามีบทบาทมากในเรื่องนี้ที่สามารถนำรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาลในแต่ละปีก็คือ ไกด์หรือมัคคุเทศก์ แต่หลังจากสถานการณ์โควิดเป็นต้นมา หาดใหญ่เงียบเหงามากจนแทบกลายเป็นเมืองร้าง ผู้ประกอบการปิดตัวปล่อยเซ้งกันทุกตรอกซอกซอยเรียกว่าเงียบเหงาจนไม่เหลือสภาพเมืองเศรษฐกิจที่เคยคึกคักเลย เช่นเดียวกับมัคคุเทศก์ ในวันนี้ต้องบอกว่าตกงาน 100% กระทั่งว่าอดีตนายกสามคมมัคคุเทศก์หาดใหญ่ยังต้องประทังชีวิตด้วยการขอข้าววัดกินในแต่ละวัน นี่คือความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการบริหารวิกฤตของรัฐบาลนี้จริงๆ
นายธวเดช กล่าวต่อว่า เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่พวกเขาต้องตกงาน แต่แทบไม่มีการเยียวยาใดๆจากภาครัฐเลย หลายคนต้องทยอยนำเงินเก็บมาใช้จนร่อยหลอบางคนก็หมดกระเป๋าแล้ว มัคคุเทศก์ 1,200 คนในหาดใหญ่ไม่มีสักรายเดียวที่สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐเช่นเงินกู้ได้เพราะธนาคารวางเงื่อนไขไว้สูงมากโดยที่รัฐเอาแต่เกรงใจและไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยปลดล็อกเลย ขณะที่มาตรการอื่นก็มีบางคนได้บางคนไม่ได้ เป็นการช่วยเหลือที่สับสนมาก
“สิ่งหนึ่งที่ตนสงสัยเหลือเกินคือ รัฐบาลกู้เงินมามากมาย แต่ทอดทิ้งประชาชนให้อยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อเนื่องมานานถึงสองปีได้อย่างไร หากวันนี้ท่านได้รับสารนี้จากผมก็วานช่วยตอบคนหาดใหญ่ทีเถอะครับ ขณะนี้พวกเขาอยากรู้จริงๆว่าเขาทำผิดอะไร และเหตุผลลึกในหัวใจของท่านเป็นอย่างไรจึงไม่ใยดีกันได้ถึงขนาดนี้”นายธวเดช กล่าว