ปัตตานีติดอีก228 ดับ 8 คน ย่านเศรษฐกิจกลายเป็นเมืองร้าง ติดป้ายให้เช่ากันระนาว ขณะที่หนุ่ม 23ปี พิษโควิดต้องปิดกิจการ ผันตัวมาขายข้าวกล่อง 25 บาทริมทาง หาเงินช่วยลูกน้อง และขายถูกช่วยชาวบ้าน
วันที่ 5 ส.ค. 64 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่ยังคงระบาดอย่างหนักต่อเนื่อง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อวันที่ 4 สค. ติดเพิ่มอีก 228 ราย สังเวย 8 ศพ ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 10,511 รักษาหาย 6,967 และเสียชีวิตสะสม 143 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ และประชาชนจังหวัดปัตตานี ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งชาวบ้านหลายคนรอความหวังอย่างเดียวให้มีคนมาแจกข้าวกล่องประทั้งชีวิต
ขณะที่สถานการณ์โควิดในปัตตานี ที่มีมาตรการไม่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ทำให้บรรยากาศบนถนนสาย มอ.ปัตตานี ย่างเศรษฐกิจชื่อดัง ตกอยู่ในสภาวะเงียบเหงา กลายเป็นเมืองร้าง เกือบทุกร้านแบกภาระไม่ไหว ถอดใจปิดร้าน ติดป้ายให้เช่า เซ็งร้านในราคาที่ถูกลง หวังนำเงินมาจุนเจือค่าใช้จ่ายในครอบครัว บางร้านปล่อยทิ้งรกจนต้นไม้ขึ้น ซึ่งรายได้เกือบทุกร้านที่หล่อเลี้ยงพ่อค้าแม่ค้า 90% ก็มาจากประชาชนที่รับประทานอาหารในร้าน
เช่นเดียวกับหนุ่ม วัย 23 ปี ที่เคยมีร้านอาหารเป็นของตนเอง แต่วันนี้ต้องปิดกิจการลง เนื่องจากพิษโควิด และมาตรการไม่ให้นั่งในร้าน ส่งผลให้ไม่มีลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้มีพนักงาน 15 คน ก็ไม่มีเงินจะจ้าง จึงเลือกจ้างพนักงานเพียง 3 คน แลละออกมาทำข้างกล้อง 25 บาท มานั่งขายริมทาง บนถนนสาย มอ.ปัตตานี โดยไม่หวังผลกำไร เพียงนำเงินเลี้ยงลูกน้อง 3 คนอยู่รอด และช่วยชาวบ้านที่ต้องการข้าวราคาถูกๆรับประทานกัน จากเดิมที่เปิดร้านขายได้วันละ 50000 บาท แต่ตอนนี้ขายข้าวกล่องริมทางได้วันละ 2000 บาท
โดยหนุ่ม วัย 23 ปี ชื่อนายฮาดีษ มั่นใจเกษตร เปิดเผยว่า ที่ตนต้องออกมาขายตามริมทาง เพราะเกิดวิกฤติโควิด19 ส่วนหนึ่งก็ต้องหาเงินให้พนักงาน จากเมื่อก่อนมีพนักงาน 15 คน ตอนนี้เหลืออยู่ 3 คน ซึ่งพอเปิดร้านได้วันเดียวจังหวัดสั่งห้ามนั่งในร้าน จึงต้องออกมาขายข้าวกล่องริมทาง
ที่ขายตนขายกล่องละ 25 บาท ตนก็ไม่ได้หวังกำไร หาเงินพอให้พนักงานอยู่รอดก็พอ อีกทั้งที่ขายถูกก็สามารถช่วยชาวบ้านอีกด้วย เขาจะได้มาซื้อเข้าถูกๆกินกัน ถ้าเหลือตนก็จะเอาข้าวกล่องไปบริจาค ซึ่งเมนูก็มีหลากหลาย เช่น ข้าวกระเพราะไก่กรอบ ข้าวกระเพราะไก่ ข้าวผัดเผ็ดไก่ และข้าวผัด
ตนพึงออกมาขายริมทางได้เพียง 2 อาทิตย์ หลังเขาห้ามนั่งกินในร้าน จึงตัดสินใจมาขายริมทาง ซึ่งถ้ายังเป็นแบบนี้ยังคงต้องขายต่อไป สถานการณ์โควิดปัตตานีลำบากสุดๆ แต่ต้องดินรนต่อไป ก็อยากให้ทุกคนป้องกันตนเองให้ดีทีสุด
เช่นเดียวกับหนุ่ม วัย 23 ปี ที่เคยมีร้านอาหารเป็นของตนเอง แต่วันนี้ต้องปิดกิจการลง เนื่องจากพิษโควิด และมาตรการไม่ให้นั่งในร้าน ส่งผลให้ไม่มีลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้มีพนักงาน 15 คน ก็ไม่มีเงินจะจ้าง จึงเลือกจ้างพนักงานเพียง 3 คน แลละออกมาทำข้างกล้อง 25 บาท มานั่งขายริมทาง บนถนนสาย มอ.ปัตตานี โดยไม่หวังผลกำไร เพียงนำเงินเลี้ยงลูกน้อง 3 คนอยู่รอด และช่วยชาวบ้านที่ต้องการข้าวราคาถูกๆรับประทานกัน จากเดิมที่เปิดร้านขายได้วันละ 50000 บาท แต่ตอนนี้ขายข้าวกล่องริมทางได้วันละ 2000 บาท
โดยหนุ่ม วัย 23 ปี ชื่อนายฮาดีษ มั่นใจเกษตร เปิดเผยว่า ที่ตนต้องออกมาขายตามริมทาง เพราะเกิดวิกฤติโควิด19 ส่วนหนึ่งก็ต้องหาเงินให้พนักงาน จากเมื่อก่อนมีพนักงาน 15 คน ตอนนี้เหลืออยู่ 3 คน ซึ่งพอเปิดร้านได้วันเดียวจังหวัดสั่งห้ามนั่งในร้าน จึงต้องออกมาขายข้าวกล่องริมทาง
ที่ขายตนขายกล่องละ 25 บาท ตนก็ไม่ได้หวังกำไร หาเงินพอให้พนักงานอยู่รอดก็พอ อีกทั้งที่ขายถูกก็สามารถช่วยชาวบ้านอีกด้วย เขาจะได้มาซื้อเข้าถูกๆกินกัน ถ้าเหลือตนก็จะเอาข้าวกล่องไปบริจาค ซึ่งเมนูก็มีหลากหลาย เช่น ข้าวกระเพราะไก่กรอบ ข้าวกระเพราะไก่ ข้าวผัดเผ็ดไก่ และข้าวผัด
ตนพึงออกมาขายริมทางได้เพียง 2 อาทิตย์ หลังเขาห้ามนั่งกินในร้าน จึงตัดสินใจมาขายริมทาง ซึ่งถ้ายังเป็นแบบนี้ยังคงต้องขายต่อไป สถานการณ์โควิดปัตตานีลำบากสุดๆ แต่ต้องดินรนต่อไป ก็อยากให้ทุกคนป้องกันตนเองให้ดีทีสุด