วันที่ 4 ส.ค. นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายภัทร อินทรไพโรจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม(เตรียมการ) กรณีการฟักตัวของลูกเต่ากระ จำนวน 2 รัง หลังจากได้รับคำสั่งให้ลาดตระเวนร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม การขึ้นวางไข่ของเต่ากระและเฝ้าติดตามการฟักไข่ของเต่ากระอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น รังที่ 1 ของแม่ศรีจันทร์ พบเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.64 จำนวนไข่เต่าทั้งหมด 148 ฟอง จำนวนเต่าที่ฟักออกเป็นตัวทั้งหมด 145 ตัว ไข่ลม 3 ฟอง ระยะเวลาที่ใช้ในการฟักออกเป็นตัว 60 วัน อัตราการรอดตาย 98 % นับเป็นรังที่ 5 ของการฟักออกมาเป็นตัว รังที่ 2 พบเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 จำนวนไข่ทั้งหมด 108 ฟอง ไม่ทราบแม่ จำนวนเต่าที่ฟักออกเป็นตัวทั้งหมด 101 ตัว ไข่ลม 7 ฟอง ระยะเวลาที่ใช้ในการฟักออกเป็นตัว 60 วัน อัตราการรอดตาย 94 % นับเป็นรังที่ 6 ของการฟักออกมาเป็นตัว รวมยอดเต่าที่ฟักออกเป็นตัว 2 รัง ทั้งหมด 246 ตัว สำหรับลูกเต่ากระ 2 รังนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามได้นำไปอนุบาลไว้ก่อนเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบการขึ้นวางไข่ของเต่ากระ แต่ไม่พบตัวแม่เต่าบริเวณอ่าวเทียน พิกัด 47 P 560324 E 1223947 N ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) จึงทำการขุดหลุมรังไข่ ทำการย้ายรังไปไว้ในที่ซึ่งปลอดภัยจากสัตว์ที่จะเข้ามากินไข่เต่าและน้ำทะเลที่อาจท่วมถึงในช่วงเวลาน้ำทะเลขึ้นสูง โดยนับเป็นรังที่ 19 มีจำนวนไข่สมบูรณ์ทั้งหมด 134 ฟอง ขนาดหลุมวางไข่ความกว้าง 23 เซนติเมตร ความลึก 42 เซนติเมตร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับ"เต่ากระ" ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Eretmochelys imbricata (Linnaeus, 1766) เป็นสัตว์ทะเลหายาก สถานภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และจัดอยู่ใน Appendix 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ด้วย.