ฉุดไม่อยู่ "ศบค."แถลงไทยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ทะลุ 20,200 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 188 ศพ "กทม."ยังอันดับ 1 ผู้ติดเชื้อวันนี้ 4,118 ราย ยอดดับ 92 คน "อย."เตือนประชาชนอย่าซื้อยา"ฟาวิพิราเวียร์"กินเอง อาจเป็นยาปลอมและการใช้ยาที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยา ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลและเสียชีวิตได้
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,200 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 20,013 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 187 ราย สะสม 672,385 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 17,975 ราย สะสม 456,025 ราย กำลังรักษาอยู่ 211,946 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 71,946 ราย และโรงพยาบาลสนาม 139,130 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,910 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,035 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 188 ราย รวมเสียชีวิต 5,503 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 20,200 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 16,284 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK (ไม่นับยอดรวมกับผู้ติดเชื้อรายใหม่) 522 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 3,708 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 187 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 21 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 188 ราย ชาย 90 ราย หญิง 98 ราย กทม. 92 ราย ยะลา 12 ราย สมุทรปราการ 10 ราย ปัตตานี 7 ราย อ่างทอง 6 ราย นนทบุรี ชลบุรี 5 ราย ปทุมธานี นครราชสีมา จังหวัดละ 4 ราย นราธิวาส อุดรธานี กาฬสินธุ์ สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ระยอง จังหวัดละ 3 ราย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ยโสธร ลำปาง นครสวรรค์ จังหวัดละ 2 ราย สงขลา นครศรีธรรมราช พังงาน ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหาร สกลนคร อำนาจเจริญ กำแพงเพชร ตราด ประจงบคีรีขีนธ์ ปราจีนบุรี สระบุรี จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อคนในครอบครัว จากคนอื่นๆ อายุค่ากลาง 67.5 ปี อายุน้อยสุด 22 ปี อายุมากสุด 95 ปี เป็นชาวไทย 186 อินเดีย 1 ราย กัมพูชา 1 ราย เสียชีวิตที่บ้าน/ระหว่างนำส่ง 4 ราย กทม. 2 ราย ปัตตานี 1 ราย ยะลา 1 ราย สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ ยังคงพบผู้ติดเชื้อลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ เมียนมา 8 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย การระบาดของโรคมีแนวโน้มยังไม่ลดลง โดยเฉพาะกทม. ปริมณฑล และจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมต่างจังหวัดบางพื้นที่ โดยในต่างจังหวัดยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องอย่างแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ผู้ติดเชื้อในครอบครัวจากผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาจากพื้นที่ระบาด (ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ) การระบาดในโรงงาน สถานประกอบการ ตลาดสด ตลาดค้าส่ง (ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้) และยังพบผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง จำนวนยังไม่ลดลง รวมทั้งพบผู้เสียชีวิตที่บ้านหลายพื้นที่
สำหรับ 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 4 ส.ค.2564 คือ 1.กรุงเทพมหานคร 4,118 ราย 2.ชลบุรี 1,678 ราย 3.สมุทรสาคร 1,294 ราย 4.สมุทรปราการ 945 ราย 5.นนทบุรี 908 ราย 6.ฉะเชิงเทรา 556 ราย 7.สระบุรี 522 ราย 8.นครราชสีมา 456 ราย 9.อุบลราชธานี 396 ราย 10. อุดรธานี 388 ราย
วันเดียวกัน นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏมีการขายยาฟาวิพิราเวียร์โดยไม่ได้รับอนุญาต เตือนประชาชนอย่าซื้อยามารับประทานเองเพราะอาจได้ยาปลอมที่ไม่มีตัวยาสำคัญอยู่เลย หรือได้รับยาที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐานทำให้เสียโอกาสในการรักษา และอาจได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน รวมถึงการซื้อยาผ่านอินเตอร์เน็ตผู้ป่วยอาจไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการใช้ยา ซึ่งปัจจุบันเมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาในระบบที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จำเป็นต้องติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างการใช้ยา การใช้ยาในผู้ป่วยบางกลุ่มจำเป็นต้องคำนึงถึงประโยชน์และความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะตามมาโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้จำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำ การใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ง่าย ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลเมื่อเกิดการติดเชื้อเป็นเหตุให้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด
รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวในตอนท้ายว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ไม่หวังดีหลอกขายยาให้แก่ประชาชน ทั้งมีการลักลอบนำยาของผู้ป่วยมาขายหรือเจตนาปลอมให้เชื่อว่าเป็นยาฟาวิพิราเวียร์หลอกขายตามอินเทอร์เน็ต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากประชาชนสงสัยว่ายาฟาวิพิราเวียร์ที่ได้รับเป็นยาปลอมสามารถสอบถามและแจ้งเบาะแสที่สายด่วน 1556 อีเมล์ [email protected]