ที่ประชุมสปท.ผ่านฉลุย 116 ต่อ 6เสียงไฟเขียวแนวทางระยะสั้นและยาวแก้รถติด-ความปลอดภัยถนนตามรายงานสรุปของคณะกมธ.ฯขับเคลื่อนการปฎิรูประบบความปลอดภัยทางถนนเสนอ เตรียมชงต่อครม.พิจารณาต่อไป ขณะที่ “เสรี”เสนอนายกฯใช้มาตรา44 ออกมาตรการเด็ดขาดแก้จราจร เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ(สปท.)ที่มีน.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธานสปท.คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานได้พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฎิรูประบบความปลอดภัยทางถนนของสปท. เรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่ โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ กล่าวว่า ปัญหารจราจรทำใหสูญเสียน้ำมันเชื้อเพลิงวันละ 79 ล้านบาทต่อวัน หรือ 33,500 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นมูลค่ามหาศาล รวมถึงก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นายเสรี กล่าวต่อว่า ทางอนุกมธ.ฯจึงเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาออกเป็นคำสั่งมาตรา 44 เพื่อกำหนดมาตรการที่เด็ดขาดในการแก้ไขปัญหาจราจร และเป็นรูปธรรมให้สัมฤทธิ์โดยเร็ว โดยสาระสำคัญก็คือ 1.ให้จัดตั้งคณะกรรมการผู้ปฎิบัติงานการแก้ไขปัญหาจราจร(คปจ.) มีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน24 ชม. 2.ให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานกลางเพื่อแก้ปัญหาจราจร (ศปก.จร.) 3.ยกระดับกองจัดการระบบจราจรทางบก โดยการจัดบุคลากรให้เพียงพอสอดคล้องกับภาระหน้าที่ และ4.ให้แก้ไขปัญหาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจร ทั้งนี้เชื่อว่า หากนำข้อเสนอขงอนุกมธฯไปปฎิบัติจะแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน ขณะที่นายสุจิณ มั่งนิมิตร รองผอ.สำนักอำนวยการความปลอดภัย กรมทางหลวง ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า อนุกมธ.เสนอแผนการปฎิรูป 2 ระยะ คือ แผนปฎิรูประยะสั้น (เร่งด่วน)อาทิ สร้างการเรียนรู้ และทดสอบใบอนุญาตขับขี่ให้ได้มาตรฐาน ยึดหลักการแก้ไขปัญหาจราจรที่ว่า “ใครทำให้รถติด คนั้นต้องรับผิดชอบ” รวมถึงรณรงค์สร้างวินัยจราจ เช่นไม่ขับรถในชั่วโมงเร่งด่วน เว้นแต่มีความจำเป็นหรือเร่งด่วนจริงๆ ไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัวโดยไม่จำเป็น และซื้อรถจะต้องมีที่จอดรถ เป็นต้น และแผนการปฎิรูปการจราจรอย่างเป็นระบบ และการแก้ปัญหาการจราจรแบบยั่งยืน จากนั้นสมาชิกสปท.ได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่วนใหญ่สนับสนุนกับข้อเสนอของอนุกมธ.ฯ โดยพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน สปท.ได้เสนอให้อนุกมธ.ฯศึกษาเกี่ยวกับการจราจรทางน้ำด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนเดินทางในเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯผลักดัน และได้เริ่มเส้นทางเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษมแล้ว ก่อนที่ประชุมจะมีมติส่งรายงานฉบับดังกล่าวไปยังคณะรํฐมนตรีด้วยคะแนน 116 งดออกเสียง 6 คะแนน