การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ "โตเกียว2020" ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รุ่นไลท์เวท น้ำหนัก 57-60 กก.หญิง รอบก่อนรองชนะเลิศ "แต้ว" อาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพร สีสอนดี กำปั้นสาวไทยจาก จ.อุดรธานี ขึ้นชกกับ แคโรไลน์ ดูบัวส์ จากสหราชอาณาจักร ซึ่งผู้ชนะในรอบนี้ก็จะได้เหรียญทองแดงไว้ในมือทันที เริ่มยกแรก สุดาพร เปิดฉากโชว์ลีลาชกได้อย่างเฉียบขาดออกหมัดใส่คู่ต่อสู้ได้ชัดเจนแม่นยำจนกรรมการ 5 คนให้คะแนนนำ 3-2 ยกสอง นักชกไทยเลือกชกเน้นๆ มากขึ้นแต่มาผ่อนเกมในช่วงปลายยกทำให้คู่ต่อสู้ที่รู้ว่าเป็นรองต้องเร่งสาดหมัดเข้าใส่ได้บ้างจบยกกรรมการให้คะแนน ดูบัวร์ นำ 3-2 ผลัดกันได้คนละยก ยกสาม สุดาพร ชกรัดกุมขึ้น ออกหมัดต่อยแล้วถอยหลบหาจังหวะเข้าบวกได้แม่นยำจนคู่แข่งที่แม้จะขยันเดินเข้าหาแต่ก็ออกอาวุธได้ไม่เต็มที่ จบยกนี้ กำปั้นสาวไทยได้คะแนนจากกรรมการ 3-2 ทำให้คว้าชัยชนะได้สำเร็จด้วยคะแนนรวม 3-2 สุดาพร คว้าเหรียญทองแดงมาตุนได้แล้ว แต่ยังมีภารกิจต่อในรอบรองชนะเลิศ ที่จะเข้าไปเจอกับ เคลลี่ แอน แฮร์ริงตัน เต็งหนึ่งดีกรีแชมป์โลกจากไอร์แลนด์ ในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ ทั้งนี้จากการคว้าเหรียญทองแดงในมือแล้วนี้ทำให้ สุดาพร จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและสวัสดิการนักกีฬาจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย แน่ๆแล้ว 4.8 ล้านบาท แต่หากสามารถคว้าเหรียญรางวัลอื่น คือ เหรียญทอง จะรับเงินรางวัล 12 ล้านบาท และเหรียญเงินรับ 7.2 ล้านบาท "แต้ว" สุดาพร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนขึ้นชกไฟต์นี้ ยอมรับว่ามีความกดดัน แต่ก็พยายามจะไม่คิด เพราะอาจจะทำให้ต่อยไม่ได้อย่างที่วางแผนไว้ การวางแผนการชกไฟต์นี้ ก็พยายามศึกษาเทปการชกของคู่แข่ง ก็เห็นว่าเป็นมวยที่ต่อยยาว มีหมัดหน้าที่ดี เราก็วางแผนว่าก็ต้องปล่อยหมัดหน้าเพื่อสู้กับเขา หมัดหน้าต้องไม่ตก ก็ศึกษาเทปของเขาอยู่ 3 รอบ แล้วก็มีการทวนเชิงต่อยกับมวยซ้าย กับโค้ชและน้องใบสน ส่วนรอบต่อไปที่เจอกับนักชกไอร์แลนด์ เขาเป็นมวยจังหวะฝีมือ ซึ่งเราก็ต้องกลับไปศึกษาดูเทปของเขาให้ละเอียดอีกครั้งว่า เคยเจอกันปี 2018 ที่อินเดีย ก็แพ้มา แต่รอบนี้พร้อมสู้เต็มที่เพื่อเข้าชิงเหรียญทองให้ได้ "ตอนที่กรรมการผายมือมาที่หนูให้หนูชนะ หนูดีใจจนพูดอะไรไม่ออกเลย มันเป็นความฝันของหนู นาทีนั้นคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ ซึ่งถ้าไม่มีพ่อ หนูเองก็คงไม่มีวันนี้ เพราะพ่อเป็นคนบังคับให้หนูต่อยมวย ถ้ามีโอกาสเจอท่าน หนูอยากจะบอกว่า หนูทำได้แล้ว ถ้าพ่อยังรับรู้ หนูขอให้พ่อภูมิใจในตัวหนูนะค่ะ หนูทำวันนี้ได้แล้ว" สุดาพร กล่าวและว่า สิ่งที่เสียดายและคิดอยู่ตลอด คือ การที่พ่อไม่ได้อยู่เห็นความสำเร็จของตัวเอง เพราะพ่อเสียไปตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ขณะที่ว่าที่ เรือโทหญิง พุทธรักษา โรคารักษ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า หลังจบการแข่งขัน พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี หรือ น้องแต้ว ที่มุ่งมั่นตั้งใจในการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างมีวินัย ทุ่มเท และฝึกฝนแม้จะอยู่ห้วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จนผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้าย โดยอวยพรให้ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งเน้นย้ำ ในการทำหน้าที่ ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นตัวแทนของประเทศ ยังเป็นเสมือนทูตวัฒนธรรม ในส่วนของการแข่งขันกีฬา แม้ชัยชนะจะเป็นสิ่งที่ ทุกคนปรารถนา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้รู้จักชนะ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร เราควรยินดีกับผู้ชนะ ขณะเดียวกันต้องให้กำลังใจแก่ผู้แพ้ และพึงระลึกเสมอว่า เราไปแข่งกีฬาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกัน ทั้งนี้มีรายงานว่าผู้บัญชาการทหารเรือเตรียมปูนบำเหน็จรางวัลให้เต็มที่ภายหลังจากอาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพรเดินทางกลับ