น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 และ 20 กรกฎาคม 2564 มีมติให้นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยาที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อคดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม รวม 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 3.1 ล้านคน ที่มีสัญชาติไทยจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท จ่ายครั้งเดียวโดยโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเท่านั้น นายจ้าง จำนวน 176,619 ราย จะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลตามจำนวนลูกจ้างหัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ซึ่งจะนับรวมลูกจ้างทั้งสัญชาติไทยและต่างด้าว นายจ้างบุคคลธรรมดาจะได้รับการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเช่นกัน ส่วนนายจ้างที่เป็นนิติบุคคลจะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่ได้แจ้งไว้กับสำนักงานประกันสังคม โดยเงินจะเริ่มโอนเงินรอบแรกในวันที่ 4 ส.ค.64
"ขอย้ำว่า ในกรณีของผู้ประกันตนมาตรา 33 และนายจ้างบุคคลธรรมดา ที่มีบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนอยู่แล้ว สามารถใช้ได้ทุกธนาคารที่ท่านมีอยู่ เช่น กรุงไทย ออมสิน ธ.ก.ส. รวมถึงธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง เงินจะโอนเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ ส่วนที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน หรือผูกด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ ให้รีบดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน หรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากเบอร์โทรศัพท์มือถือมาเป็นผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน"
ทั้งนี้สามารถดำเนินการด้วยตนเองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่ท่านมีบัญชีอยู่ตามที่ท่านสะดวก เช่น Mobile Application, Internet Banking และที่ตู้ ATM โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคาร รวมถึงท่านที่ได้รับสิทธิและยังไม่เคย มีบัญชีเงินฝาก เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 สามารถใช้บริการเปิดบัญชี ผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นจึงลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยา