สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ หรือซีดีซี ออกเอกสารส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ โดยมีเนื้อหาว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา สามารถแพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายเหมือนกับโรคอีสุกอีใส และแพร่เชื้อได้เร็วกว่า ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไข้หวัดสเปน ไข้ทรพิษ เชื้อไวรัสอีโบา โรคซาร์ส และโรคเมอร์ส อีกด้วย รวมถึงยังมีช่วงระยะเวลาการแพร่ระบาดยาวนานกว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม
พร้อมกันนี้ เอกสารของซีดีซี ยังได้มีข้อแนะนำด้วยว่า วิธีป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ก็คือ การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด
ทางด้าน นพ.สก็อตต์ ก็อตลีบ อดีตประธานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอ ออกมากล่าวเตือนถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ในสหรัฐฯ ว่า ตนเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตารายวันในสหรัฐฯ อาจจะมีจำนวนหลักล้านคน มากกว่าตัวเลขที่มีรายงานกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ถึงร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริง
โดยอดีตประธานเอฟดีเอ ระบุว่า ตนไม่ประหลาดใจหากพบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตารายวันมีจำนวน 1 ล้านราย
ทั้งนี้ ตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า อัตราเฉลี่ยในรอบ 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันในสหรัฐฯ อยู่ที่ 67,000 ราย เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 53 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า
สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 35,745,024 ราย มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตก็มีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นกัน จำนวน 629,315 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 29,666,117 ราย