"จอย" สิบตรีหญิงเจนจิรา ศรีสอาด เเละ "ไวน์" นวพรรษ วงษ์เจริญ 2นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ที่ได้สิทธิไวลด์การ์ดลงเเข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์หลังเเข่งขันเสร็จสิ้นทุกรายการ โดยไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงเหรียญได้ เจนจิรา กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นกับบรรยากาศการเเข่งขันว่ายน้ำในโอลิมปิกเกมส์สมัยเเรก เเม้จะไม่เปิดให้มีผู้ชมก็ตาม ซึ่งก่อนเเข่งมั่นใจว่าจะทำผลงานออกมาได้ดี จากการที่ได้ฝึกซ้อมกับโค้ชไซม่อน ที่พยายามปรับเเก้ข้อผิดพลาดเเละเสริมเทคนิดดีๆเข้ามา เเต่พอมาเจอกับนักกีฬาในระดับท๊อปของโลก ทำให้ยังดูห่างชั้นอยู่มากเเต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในการพัฒนาตัวเอง ในโอลิมปิกครั้งหน้าที่ฝรั่งเศส สำหรับเวลาที่ทำได้ในท่าฟรีสไตล์50เมตร ถือเป็นท่าเก่ง เเต่ไม่สามารถทำลายสถิติตัวเองได้ ที่เคยทำไว้ในซีเกมส์2019 ตรงนี้คิดว่าพยายามทำอย่างสุดความสามารถเเล้ว ซึ่งพอใจกับผลงานที่ออกมากับลำดับที่37 จากนักกีฬา81คนทั่วโลก รวมถึงท่าฟรีสไตล์100เมตร ที่มีเวลาซ้อมน้อย เเต่เวลาที่ได้ถือว่าน่าพอใจจบอันดับที่42 จากนักกีฬา51คน ที่ลงเเข่งขัน ด้านนวพรรษ กล่าวว่า พอใจกับผลงานที่ออกมา เเม้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือการทำลายสถิติประเทศไทยของตัวเอง เเต่อย่างน้อยเวลาที่ได้เมื่อเทียบกับการฝึกซ้อมที่ผ่านมา ที่ต้องเจอกับสถานการณ์ระบาดของโควิด ทำให้ไม่สามารถซ้อมได้ต่อเนื่อง ถือว่าเป็นอะไรที่ยอมรับได้ "โดยเฉพาะท่าผีเสื้อ100เมตร นับว่าเป็นการว่ายที่เร็วที่สุดของตนในช่วงเเรก เเต่ช้าไปเพียงครึ่งวินาทีก็จะทำลายสถิติประเทศไทย ถ้าช่วง15เมตรสุดท้ายไม่เเผ่วไปก่อน ส่วนท่าถนัดอย่างผีเสื้อ200 เมตร ยังคิดว่าทำได้ไม่ดี เพราะลงเเข่งเป็นรายการเเรก ยังมีความตื่นเต้น กับโอลิมปิกครั้งเเรก รวมถึงต้องปรับตัว เนื่องจากร้างสนามในระดับนานาชาติมานานกว่า1ปี การได้ลำดับที่34 จากนักกีฬาทั้งหมดที่ลงเเข่งขัน39 คน ส่วนตัวคิดว่าดีที่สุดเเล้ว" พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำเเห่งประเทศไทย ยอมรับว่านักกีฬาทั้ง 2 คน ทำเต็มที่เเล้ว โดยเฉพาะเจนจิรา ในท่าฟรีสไตล์50เมตร เเม้จะไม่ทำลายสถิติประเทศไทย 25.32วินาที ของตัวเอง เเต่ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดในอาเซียน เหนือนักว่ายน้ำสิงคโปร์ ที่เป็นเจ้าของสถิติเหรียญทองครั้งที่เเล้ว เเละเป็นอันดับ4ของเอเชีย นับว่าเจนจิรา จะเป็นความหวังเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์เเละเอเชี่ยนอินดอเกมส์ของไทย ซึ่งทางสมาคมฯพร้อมจะดูเเลนักว่ายน้ำทั้งเจนจิราเเละนวพรรษอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยทั้งคู่จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่3ส.ค.เเละเข้ารับการกักตัว ในโครงการภูเก็ตเเซนด์บ็อค ที่จ.ภูเก็ต "ส่วนเเผนงานของสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯหลังจากนี้ คือการคัดเลือกนักกีฬาเยาวชน อายุระหว่าง14-17ปี เข้าร่วมเเข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนยูธ ที่ซัวเถา ประเทศจีน ในช่วงเดือนพ.ย. 64 ซึ่งมีการประกาศหลักเกณฑ์ระเบียบคัดเลือกไว้เเล้ว โดยจะเปิดรับสมัครวันที่6-12ส.ค.เเละจะคัดตัวในวันที่21-22ส.ค. เช่นเดียวกับรายการเอเชี่ยนอินดอมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ จะเปิดรับสมัคร12-19ส.ค.เเละเเข่งขันทดสอบเวลา วันที่28-29ส.ค. อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ไม่ลดลง ทางสมาคมฯอาจมีการเลื่อนเเละปรับเปลี่ยนโปรเเกรมตามความเหมาะสม โดยขอให้นักกีฬาได้สมัครทำการทดสอบเวลาตามที่กำหนดไว้ก่อน"