เรื่องจริงที่จุกอกสุดปวดหัวใจของหมอที่ต้องเผชิญมาแรมเดือน เมื่อประเทศไทยมาถึงจุดนี้ ใครที่น่าสู้ และใครทึ่ต้องปล่อยมือแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะกทม.และปริมณฑล ที่วิกฤติขึ้นทุกวัน ทั้งจากตัวเลขรายวันและสถานการณ์จริงจากบุคลากรด่านหน้าที่ต้องรับศึกหนัก ทั้งข่าวการเสียชีวิตภายในบ้าน ทั้งการรอคอยเตียง คนไข้ที่แออัดจนล้นทะลักรพ. ดังเรื่องราวจากเพจเฟซบุ๊กใกล้มิตรชิดหมอ ซึ่งมีคุณหมอด่านหน้าบอกเล่าถึงเรื่องราวของโควิดที่ต้องประสบ โดยระบุ "...จะมาเล่าในฐานะหมอคนนึงที่เจอเคสโควิดทุกวัน ...ทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนอายุรกรรม รพ.แห่งหนึ่งย่านคลองสานในกทม ปกติตอนนี้ดูแลคนไข้โควิดที่มานอนที่รพ. ทุกคนเชื้อลงปอดหมด 95% ต้องการออกซิเจน รพ.ตอนนี้ เรียกว่าระบบล่มเรียบร้อย คนไข้นอนกองที่ห้องฉุกเฉินวันละ 30-40 เคส ใส่ท่อช่วยหายใจแล้วก็ตายกันตรงที่ห้องฉุกเฉินเนี่ยแหละ รอเตียงเป็นอาทิตย์ก็ไม่ได้ขึ้นมา เราที่ดูแลคนไข้บนตึก ต้องเขียนใบสรุปการตายทุกวัน ส่วนมากก็มีโรคประจำตัว แต่มันก็ไม่ใช่โรคที่ปกติจะต้องมาตายอะ แบบเบาหวาน ไต ที่ปกติก็อยู่ได้อีกเป็น 5 ปี 10 ปี ทุกวันนี้โทรคุยกับญาติๆลูกๆคนไข้ทุกวัน คุณพ่อ คุณแม่อาการไม่ดีนะคะ หมอคิดว่าถึงจุดที่ต้องปล่อยให้คนไข้ไปสบาย ต้องโทรแจ้ง คุณป้าเสียแล้วนะคะ ต้องโทรคุยว่าจะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจเพราะเครื่องช่วยหายใจหมดรพ. คนไข้บางคนไม่ได้ตายเพราะโควิดนะ แต่ตายเพราะโรคประจำตัว อย่างที่เจอคือคนไข้โรคไตที่ไม่ได้ไปล้างไตมา 10 วันเพราะศูนย์ล้างไตปิด จนน้ำท่วมปอด ค่าเกลือแร่ผิดปกติจนหัวใจหยุดเต้น นี่คือสิ่งที่เจอมาตลอดเดือนนึง แต่มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ต้องมานั่งเขียนวันนี้นะ วันนี้ต้องตรวจคนไข้นอกเวลา ปกติเดือนก่อนๆ ก็จะตรวจเคสทั่วๆไปประมาณ 30 เคส แล้วก็จะมีเคสไข้หวัด แบบไอ มีน้ำมูก ประมาณ 10 เคส วันนี้ สิ่งที่เจอคือตรวจเคสอื่นไป 5 เคส อีก 50 เคสมาด้วย ไข้ ไอ บางคนเพิ่ม ท้องเสีย จมูกไม่ได้กลิ่น บางคนมีญาติที่บ้านเป็น บางคนตรวจ Antigen มาแล้ว positive บางคนเริ่มเจ็บหน้าอก บางคนเหนื่อย ออกซิเจนเริ่มต่ำ เรียกว่านี่แทบจะไม่ได้ตรวจเลย คือคนไข้มันเยอะมากจนแบบทำได้แค่จ่ายยาตามอาการแล้วนัดมา swab พรุ่งนี้ คือ 50 คนเนี่ยดูโหงวเฮ้งแล้วน่าจะเป็นโควิดสัก 40-45 คนอะ แล้วก็มีคนไข้อยู่ 3 คน คนที่ 1 ไข้ ไอ เหนื่อย มารอคิวตั้งแต่บ่าย 2 ออกซิเจนในเลือด 91% เอกซเรย์มีฝ้านิดหน่อย (minimal RLL infiltrate) อะดูอาจจะไม่ได้เหมือนโควิดมาก แต่ pneumonia แน่ๆล่ะ คนที่ 2 เป็นโรคไต ล้างไตทางหน้าท้อง คนในบ้าน Antigen positive คนไข้มีไข้ ไอ เอกซเรย์มีฝ้าเยอะกว่าคนแรกหน่อย (bilat minimal peripheral infiltration) ก็ดูท่าทางน่าจะเป็นนั่นแหละ แต่ออกซิเจนในเลือดยังดีอยู่ คนที่ 3 อายุ 48 อ้วนมากหนัก 120 โล ไข้ ไอ เหนื่อย เอกซเรย์ไป มองยังไงก็เป็นโควิด ปอดเป็นฝ้าเรียบร้อย (BLL infiltration) ออกซิเจน 95% หมอทุกคนรู้อยู่แล้วเคสโควิดที่ตาย โรคประจำตัวที่สำคัญมากๆที่ทำให้ตายมากขึ้นคือคนไข้ที่อ้วนมากๆ คนไข้ทั้ง 3 คนคิดว่ายังไงก็ควรต้องนอนรพ.อะ นี่เลยจะ swab COVID ให้คนไข้เลยแบบขอผลเร็ว 1 ชม. พี่พยาบาลก็เบรกว่า ถ้าตรวจแล้วผลบวกก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนะหมอ ตอนนี้รพ.เตียงเต็มแบบไม่รู้จะให้คนไข้ไปอยู่ไหนแล้ว นอนจนไม่มีทางเดิน ทุกวันนี้คือต้องให้ยากลับไปกินแล้วให้ญาติเซ็นเอกสารว่าจะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจไม่ปั๊มหัวใจ (ก็คือให้ยากลับบ้านแล้วเซ็น NR เลย) นี่ก็เริ่มเครียดและ แบบทำไงดี อยากช่วยอะไรคนไข้ทั้ง 3 คนบ้าง คือจะนัดมา swab แล้วถ้าผลบวกก็เท่านั้น คนไข้ทำอะไรได้อะ ไม่มีเตียงอยู่ดี คนที่หนัก 120 โล คือหนักสุด คนที่เคยรักษาเคสโควิดจะรู้ อีก 1-2 วันปอดมันจะแย่มาก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แล้วคนอ้วนส่วนมากก็ลงเอยด้วยเสียชีวิตอยู่ดี ยิ่งเรารักษาช้าคนไข้โอกาสรอดก็ยิ่งแทบไม่มี ตอนเดินไปคุยกับคนไข้นี่บอกคนไข้เลยนะว่ากลับบ้านไปให้นอนคว่ำนะแล้วก็สุดท้ายตัดสินใจให้ยาลดการอักเสบไปเลย (ให้ dexa ไปเลยแต่ยังไม่ได้ให้ favi เพราะต้องรอผล pcr) คือรู้สึกแย่มากอะ จะร้องไห้จริงๆ ตอนนั่งพิมพ์ยากลับบ้านให้คนไข้ รู้สึกเหมือนกำลังปล่อยเค้าไปตาย แบบนี่เราเป็นหมอนะ แต่เรากำลังจะปล่อยคนไข้อีก 1-2-3 และอีกหลายๆคนตายโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่ให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ที่ชาวบ้านไปหาซื้อกินเองก็ได้อะ ทุกวันนี้ต้องเลือกว่าจะใส่ท่อช่วยหายใจใคร ใครน่าสู้ ใครต้องปล่อย คือมันใช่เหรอ มันไม่ได้มั้ย มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นมั้ยอะ... ### จำนวนคนตายไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือชีวิตและเป็นคนในครอบครัวของใครสักคน ###" (ภาพจากติ๊กต่อก mc-dear2020)