เมื่อวันที่ 30 ก.ค.นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้อำนาจตาม มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกข้อกำหนดห้ามเสนอข่าวและข้อมูลทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวและกระทบต่อความมั่นคงรัฐ พร้อมให้อำนาจ กสทช.ตรวจสอบและระงับการให้บริการอินเตอร์เน็ตว่า แม้การออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายให้อำนาจไว้แต่การที่จะใช้อำนาจได้มากแค่ไหนต้องพิจารณาตามสถานการณ์ไป เพราะการออกข้อกำหนดต่างๆ สามารถทำได้ 2 ลักษณะ คือในกรณีสถานการณ์ฉุกเฉินธรรมดาและสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ซึ่งการใช้อำนาจออกข้อกำหนดก็จะทำได้คนละระดับกันด้วย
นายชัยเกษม กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินธรรมดา ไม่ได้ประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ดังนั้นการใช้อำนาจจึงใช้ได้เฉพาะตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการสั่งให้ กสทช. สั่งปิดกั้นสื่อหรือระงับการให้บริการอินเตอร์เน็ต ถือเป็นเรื่องใหญ่ กระทบกับสิทธิประชาชนและสื่อมวลชนมากเกินกว่าปกติ ดังนั้น กฎหมายจึงกำหนดให้จะต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ร้ายแรงก่อนถึงจะดำเนินการในส่วนนี้ได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง แต่กลับออกประกาศใช้ข้อกำหนดดังกล่าวที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายและรัฐบาลอาจมีความผิด
"รัฐบาลอาจรู้สึกว่าการพูดความจริงของประชาชนและสื่อสร้างผลกระทบกับรัฐบาล จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะปิดกั้น แต่การทำเช่นนี้หากไม่ถูกต้องตามกฎหมายรัฐบาลก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วย การพยายามปิดปากสื่อปิดปากประชาชนเช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้วในสถานการณ์ปกติ หากทำไปโดยไม่มีกฎหมายรองรับก็จะยิ่งเป็นปัญหา ซึ่งการกระทำลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลที่มาจากประชาชนและมาตามกติกาประชาธิปไตย"
นายชัยเกษม กล่าวว่า หากข้อกำหนดต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศบังคับใช้กับประชาชน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือเป็นการขัดกันระหว่างกฎหมายต่อกฎหมาย ประชาชนและสื่อก็มีสิทธิจะไม่ปฏิบัติตาม นอกจากนั้นแล้วรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบและรอบคอบต่อหน้าที่และส่วนรวม ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกสั่งให้ดำเนินการตามคำสั่งที่ไม่ชอบ ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าจะดำเนินการหรือไม่และอย่างไร เพราะหากเกิดกรณีใช้อำนาจไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ก็จะต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมารัฐบาลนี้บริหารจัดการหลายเรื่องผิดพลาดมากมาย จนประชาชนรู้สึกว่าไม่สมควรที่จะบริหารประเทศได้อีกแล้ว ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมาถึงนี้ พรรคเพื่อไทยจะพิจารณาประเด็นการใช้อำนาจของรัฐบาลที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้เสริมประเด็นความผิดพลาดในการบริหารประเทศต่างๆ ของรัฐบาลด้วย