เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 ที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็ง ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ได้จัดกิจกรรมดำนารวมครั้งที่ 5 ที่นารวมกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็งซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 30 คน และการจัดกิจกรรมครั้งนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายได้อ่านแถลงการณ์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของชาวรากหญ้าที่ใช้แรงงานในการผลิตและสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ในขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันโดยเฉพาะการระบาดของโควิด-19 ที่รัฐบาลยุคปัจจุบันไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลับทำให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องกระทั้งมีประชาชนเสียชีวิตรายวัน นางมะลิจิตร เอกตาแสง อายุ 59 ปี กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายเชียงเพ็ง ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ “เสียงสะท้อนจากชาวนาถึงรัฐบาล” เราเป็นชาวนา ประชาชน และราษฏร เมื่อฝนหยดแรกมาถึง เราต่างเตรียมเมล็ดพันธุ์ กล้าข้าว และผืนนา ให้พร้อมกับฤดูกาลผลิตที่มาถึง เพื่อใช้แรงงานทำการผลิตอาหารสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร เพื่อหล่อเลี้ยงผู้คน ให้สามารถมีลมหายใจ ต่อเติมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามที่ต้องการตามอัตภาพของเรา 7 ปี 7 ฝน 7 ร้อน 7 หนาว หลังจากการยึดอำนาจโดยเผด็จการทหาร และชนชั้นศักดินา ที่ผ่านมานั้น พาให้ชีวิตพวกเรา ต้องลำบากยากแค้นเป็นอย่างมาก ไร้สิทธิ ไร้เสียง ในการเอ่ยถึงปัญหาที่เราพบเจอ เมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของคนรากหญ้า ก่อให้เกิดปัญหาต่อปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเรามีรัฐบาลที่ดีที่เข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชน มีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และมีรัฐธรรมนูญมาจากประชาชนจริง ๆ ในวันนี้ นอกจากปัญหาที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวันแล้ว การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ไม่มีใครปราถณานั้น มิได้ปราณีต่อเราเลย มิหนำซ้ำ พวกเผด็จการทหาร ยังไม่สนใจเสียงสุดท้ายของลมหายใจประชาชน ปล่อยให้ประชาชนล้มตายจากโรคระบาด คนแล้วคนเล่าเหมือนใบไม้ร่วง มองเห็นความตายของประชาชนเป็นเพียงเรื่องความโชคร้าย จำนวนคนตายไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือชีวิตและเป็นคนในครอบครัวและญาติพี่น้องของใครสักคน ทั้งที่จริงนั้น การแก้ปัญหาดังกล่าว สามารถทำได้ หากประชาชนเหล่านั้น ได้รับวัคซีนป้องกันอย่างทั่วถึง และมีคุณภาพ ก็จะสามารถทำให้พวกเขา สามารถมีลมหายใจอยู่ต่อได้ พวกเขา คือประชาชน และราษฏร เฉกเช่นเดียวกับพวกเรา ที่มีคุณค่าและมีศักดิ์ศรีความเป็นคน เพียงพอต่อการมีลมหายใจต่อไป กลับมาเถิดพี่น้อง กลับมาบ้านเรา ถิ่นที่เราได้กำเนิดเกิดมา ถิ่นที่เราได้ฝังรกรากของเรา กลับมารักษา กลับมาตั้งหลักเพื่อร่วมกันขีดเขียนอนาคตของเรา ที่ไหนก็ไม่เท่าบ้านเราหรอก อย่างน้อยเรายังมีฐานทรัพยากรให้เราได้พึ่งพาอาศัยในการดำเนินวิถีชีวิต ดังนั้น สิ่งที่เรากล่าวข้างต้นนั้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของรัฐบาลเผด็จการที่ไม่สามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอย่างที่หลายภาคส่วนเสนอไปได้ เราจึงขอยืนยันว่า เราจะร่วมกันขับไล่ พวกเผด็จการทหาร ชนชั้นศักดินา ที่กดขี่ เพื่อนพี่น้องประชาชน ราษฏร ตลอดจนเราต้องการให้มีรัฐบาลที่เข้าใจปัญหาประชาชน แก้ไขปัญหาของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน