“ตั๊น จิตภัสร์” จี้นายกฯหยุดเลิกสร้างความหวาดกลัว งัดกม.แรงปิดปากปชช. มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู แนะเปิดใจกว้างรับฟังปัญหายอมรับความเป็นจริง กล้าตัดสินใจเด็ดขาดออกมาตรการจัดการโควิด เมื่อวันที่ 30 ก.ค.นางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส. บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะ กมธ. การตำรวจ สภาผู้แทนฯ พร้อมด้วยนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว. กระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่มอบถุง “เติมพลังใจ สู้ภัยโควิด - 19” โดยมูลนิธิเสนีย์ ปราโมช เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ สน.พลับพลาไชย 1-2 เขตสัมพันธวงศ์ โดยมีพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ร่วมรับมอบ น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องที่ระดับกว่า 17,000 รายจากภาพที่เห็นในสื่อโซเชี่ยลมีเดีย กรณีปัญหาความแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อที่ผ่านมา มีการปรับปรุงแก้ไขจัดระเบียบที่ดีขึ้น แต่อยากให้มีการเพิ่มและกระจายจุดฉีดวัคซีน ไปยังพื้นที่อื่นๆ และระดับจังหวัดที่มีความพร้อมด้วย เพราะเวลาทุกนาทีมีค่า มีความหมายต่อชีวิตพี่น้องประชาชน นอกจากนี้จุดตรวจโรคที่ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด จำเป็นต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน ที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง การสื่อสารที่ตรงไปตรงมา กระชับ เข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์สำหรับนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการเปิดใจกว้างรับฟังเสียงของประชาชน จากความภาวะตึงเครียด ความหวาดกลัว ที่ส่งผลต่อสภาวะจิตใจ แทนที่รัฐบาลจะสร้างความมั่นใจจากมาตรการต่างๆของภาครัฐ แต่กลับมาออกข้อกำหนด ฉบับ 29 ที่น่าจะเข้าข่ายจำกัดเสรีภาพเกินกว่าเหตุ ควบคุมการนำเสนอข่าวสารหรือข้อมูลที่สร้างความตื่นตระหนก อ้างว่าเป็นเฟกนิวส์ ให้กสทช. และหน่วยงาตที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีกับผู้ที่มองว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ยิ่งจะสร้างความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างประชาชนกับรัฐบาลในห้วงที่ประเทศกำลังต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย รัฐบาลต้องเลิกมองประชาชน และผู้เห็นต่างเป็นศัตรู เพราะศัตรูที่แท้จริงของผู้บริหารประเทศเวลานี้คือเชื้อโรคโควิด-19 ไม่ใช่พี่น้องคนไทยที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส น.ส.จิตภัสร์ กล้าวอีกว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีกล้าตัดสินใจให้เด็ดขาดในการออกมาตรการโควิด-19 โดยใช้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในทุกมิติทั้งการแพทย์ เศรษฐกิจ และภาคสังคม เพื่อเรียกความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในฐานะผู้นำประเทศว่ารัฐบาลรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล จะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศเป็นสำคัญ เพราะความรัก ความสามัคคี และความจริงใจในการช่วยเหลือของประชาชนคนไทยของทุกคน จะทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ไปได้