โรงงานถูกคำสั่งปิด หลังปล่อยโรคโควิด 19 ระบาดภายในจนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในสถานประกอบการ 3 แห่งดิ้น ยื่นแผนขอเปิดดำเนินกิจการซ้ำ แต่ถูกคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ตีกลับให้ไปทบทวน 2 ได้รับไฟเขียว 1 แห่ง ด้าน ปธ.สภาอุตสาหกรรมเผย สังคมยังเฝ้าจับตามองขอให้ผู้ประกอบการเสนอแผนให้ชัด เกี่ยวกับมาตรการในการควบคุมโรคก่อนนำกลับมาเสนอขอใหม่ วันที่ 29 ก.ค.64 เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ซี่งมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานการประชุม ได้มีสถานประกอบการ 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทอีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 81/3 ม.3 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา บริษัทไทยแอโรว์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 79 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และ บริษัทซีเอชโอโต้อินดัสตรี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 99 ม.1 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางเข้ามายื่นเสนอแผน 4 แผนตามที่ ศบค.จังหวัดกำหนดไว้ หากต้องการจะเปิดดำเนินกิจการก่อนครบกำหนด 14 วัน ประกอบด้วย แผนการบริหารจัดการคน คือ การปฏิบัติตนของพนักงาน แผนการเดินทาง คือ การขนย้ายแรงงานและการเดินทางมาทำงาน แผนเผชิญเหตุหากพบผู้ติดเชื้อ ต้องกักตัวและทำการรักษา และจะต้องมีการเตรียมแผนจัดตั้ง รพ.สนามและศูนย์พักคอยภายในโรงงาน โดยมีสำนักงานสาธารณสุข และทางอำเภอท้องที่เข้าไปควบคุมดูแล กรณีแรงงานเดินทางข้ามจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม หากเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และหากเป็นซิโนแวคต้องได้รับมาแล้วครบ 2 เข็ม และต้องทำ Antigen Test Kids แบบสุ่มตรวจร้อยละ 10 จากจำนวนแรงงานทั้งหมดในทุกๆ 7 วันหากพนักงานยังไม่ได้รับวัคซีน หลังการยื่นนำเสนอแผนต่อที่ประชุม ปรากฏว่ามีเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดดำเนินกิจการก่อนครบกกำหนด 14 วันได้ คือ บริษัทอีคอร์เนส (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งผู้ประกอบการรายนี้ได้ใช้วิธีปิดล็อคโรงงานให้พนักงานที่จะมาทำงาน อยู่แต่ภายในบริษัท โดยไม่สามารถเดินทางเข้าออกมายังภายนอกได้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ส่วนผู้ประกอบการอีก 2 ราย ยังนำเสนอแผนการบริหารจัดการได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค หากพนักงานเดินทางกลับบ้านไปแล้ว ทางผู้ประกอบการยังไม่สามารถที่จะทำการควบคุมคนงานเหล่านี้ได้ จึงอาจนำเชื้อไปแพร่กระจายสู่สังคมหรือรับเชื้อกลับเข้ามาได้อีก ขณะที่ นายจิรทัศน์ แจ่มไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้คนในสังคมยังคงเฝ้าจับตามองเราอยู่ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในคลัสเตอร์โรงงานซึ่งเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ และไม่ใช่แค่เฉพาะคนใน จ.ฉะเชิงเทรา เท่านั้น แต่เป็นคนจากทั้งประเทศที่กำลังดูอยู่ว่า จ.ฉะเชิงเทรา จะสามารถควบคุมโรคจากคลัสเตอร์โรงงานได้หรือไม่ มีการจัดการอย่างไร ควบคุมโรคอย่างไร จะมีการระบาดจนบานปลายต่อไปอีกหรือไม่ สำหรับกรณีที่ทาง จ.ฉะเชิงเทรา สั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมไปหลายแห่ง เนื่องจากมีการระบาดสูง ในวันนี้ได้มีเข้ามายื่นเสนอแผนต่อคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดแล้ว 3 ราย ซึ่งได้รับอนุญาตไป 1 แห่ง หลังการพิจารณาเห็นว่าทางโรงงานมีแผนที่จะสามารถควบคุมโรคได้ หรือซีลโรงงานไว้ได้ จึงถือเป็นหลักใหญ่ในการพิจารณาจากที่ประชุมในวันนี้ว่าโรงงานต่างๆ ที่จะเปิดได้นั้นคุณต้องชัวร์ในการควบคุมโรค ส่วนโรงงานอีก 2 แห่งนั้น พบว่าแผนยังไม่มีความชัดเจนและยังมีช่องว่าง เมื่อพนักงานออกจากโรงงานกลับบ้านไปแล้วจะควบคุมโรคได้ยาก ทางคณะกรรมโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ให้นำกลับไปทบทวนใหม่ และในการประชุมอีก 2 วันข้างหน้า จะนำกลับมานำเสนอใหม่อีกครั้งในที่ประชุมได้ นายจิรทัศน์ กล่าว