ยายวัย 70 ปี เร่ขายถั่วลิสงคั่ว อาชีพทางรอดยุโควิด 19 เดลิเวอรี่ส่งถึงที่ แถมยังมีไอเดียเจ๋ง คิดค้นเครื่องคั่วถั่วลิสงทุ่นแรงเอง อบในตัว หอมกรอบอร่อย พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
วันนี้ (29 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโควิด 19 กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ส่งผลกระทบกับหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพที่มีการเปิดร้านรอจำหน่ายบริการให้ลูกค้า แม้จะเปิดขาย แต่กลับพบว่าลูกค้าหดหายไป เนื่องจากหวั่นกลัวกับการระบาดของไวรัส จึงไม่อยากออกจากบ้าน ขณะเดียวกันก็มีอาชีพที่ค้าขายแบบเดลิเวอรี่ส่งถึงที่หน้าบ้าน จึงยังเป็นอาชีพเดียวที่ยังอยู่รอด ท่ามกลางสถานการร์เช่นนี้ และได้รับผลกระทบน้อยกว่าอาชีพอื่นๆ อย่างเช่นอาชีพเร่ขายถั่งลิสงคั่ว ของคุณยายสุทิศ หิงงาม อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 บ.ตาไท ม.4 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ที่ประกอบอาชีพดังกล่าวมากว่า 30 ปี ด้วยการรับซื้อถั่วลิสงแล้วนำมาคั่วและบรรจุถุงเอง ก่อนขับรถจักรยานยนต์พ่วงตระเวนเร่ส่งขายตามร้านค้าในหมู่บ้านเขตชนบทในพื้นที่ 3 อำเภอ อาทิ อ.สังขะ ,อ.บัวเชด และอ.กาบเชิง โดยจะตระเวนขายวันเว้นวัน เนื่องจากต้องใช้เวลาคั่วและบรรจุถุง 1 วันก่อนจะเร่ขายอีก 1 วัน แต่ละครั้งจะบรรจุถุงส่งขายรวมกันกว่าวันละ 100 กิโลกรัมต่อครั้ง ขายหมดไม่มีเหลือแถมขายไม่พอ ทำแทบไม่ทัน
ซึ่งในแต่ละวันคุณยายจะต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาคั่วถั่วลิสงเอง โดยเมื่อก่อนใช้กระทะใส่ทรายในการคั่ว แต่ตูดกระทะทะลุอยู่บ่อยครั้ง จึงพยายามคิดค้นดัดแปลงเครื่องคั่วถั่วลิสงทุ่นแรงเอง จนมาได้พาลไถของรถไถ นำมาประกบกัน 2 อัน และให้ช่างตัดเหล็กแผ่นเชื่อมติดกันตรงกลาง นำพาลไถมากระกบกันให้เป็นวงกลม ให้มีช่องกรวงข้างใน พร้อมกับดัดแปลงทำฝาเปิดปิด เพื่อใส่และเทถั่วลิสง รวมทั้งทรายเข้าออกเวลาจะคั่วหรือเมื่อคั่วเสร็จ พร้อมกับทำคานเหล็กยื่นออกมาสองข้าง เพื่อไว้ค้ำกับง่ามไม้เวลาหมุนโยกแกว่งไปมา ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีและมีอยู่เครื่องเดียวในประเทศไทยก็ว่าได้ แถมคุณภาพของถั่วลิสงที่คั่ว ยังหอมกรุ่น กรอบ ไม่ไหม้อีกด้วย เพราะเวลาใช้เครื่องดังกล่าวหมุนคั่วถั่วลิสงไปพร้อมกับทรายที่บรรจุด้านใน ถั่วก็จะถูกอบร้อนไปในตัว และสุกเร็ว ง่ายกว่าการคั่วด้วยกระทะอีกด้วย แถมไม่เปลืองแรงและช่วยประหยัดเวลาได้มาก
ยายสุทิศ หิงงาม แม่ค้าเร่ขายถั่วกล่าวว่า เครื่องคั่วถั่วลิสงทุ่นแรงดังกล่าว ตนคิดค้นมากว่า 30 ปีแล้ว หลังคั่วด้วยกระทะ ก้นกระทะจะทะลุบ่อยมากและเสียดายที่จะต้องทิ้งหลายใบ จึงคิดนำพาลไถมาดัดแปลงทำ ผลปรากฏว่าถั่วคั่วสุกเร็ว กรอบหอมกว่าคั่วด้วยกระทะ แต่คั่วนานไม่ได้ จะไหม้ แถมประหยัดแรงและเวลาได้อีก แค่แกว่งไปแกว่างมาบนง่ามไม้ หลังจากคั่วได้ที่ก็นำมาบรรจุถุง เมื่อก่อนบรรจุขายถุงละบาท เพราะสมัยก่อนถั่วมีราคาถูก ปัจจุบันถั่วลิสงมีราคาแพงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 50-60 บาท จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน ปัจจุบันบรรจุถุงและลนไฟ ก่อนจะนำมาร้อยเป็นพวง พวงละ 14 ถุง ขายส่งในราคาพวงละ 100 บาท ถ้าร้านค้าไหนซื้อเยอะก็จะลดให้ ร้านค้าก็จะขายต่อถุงละ 10 บาท และยังมีแบบ 3 พวง 100 บาท บรรจุขนาดถุงเล็กลง พวงละ 10 ถุง หากซื้อเยอะก็จะลดให้ ร้านค้าก็จะขายต่อถุงละ 5 บาท เที่ยวหนึ่งเฉลี่ยก็ราว 100 ก.ก. ขับรถเร่ขายไปเรื่อยๆตามร้านค้า ทำไม่ทัน เพราะกำลังผลิตไม่พอ ต้องจ้างเพื่อนบ้านมาคอยช่วยบรรจุถุงลนไฟ วันละ 150-200 บาท แล้วแต่ว่าถั่วมากถั่วน้อย หมุนเวียนส่งตามร้านค้าไปเรื่อยๆแล้วแต่มีของ เวลาให้คนอื่นไปขายแทน ร้านค้ามักจะไม่ค่อยอยากจะซื้อ เกรงไม่ใช่ถั่วของตน เพราะลูกค้าบอกว่าถั่วของตนกรอบสด อร่อย ตนก็ไม่รู้ว่าอร่อยจริงไหม ต้องชิมดูเอง ส่วนรายได้ก็พอได้ค่าน้ำค่าไฟ ค่าน้ำมัน ดีกว่าอยู่เฉยๆไม่มีอะไรทำ