ผู้ว่าฯลงพื้นทีด้วยตนเอง เร่งฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุแต่ละหมู่บ้าน หลังพบหลายคนไม่สามารถเดินทางไกล อีกทั้งตัวเลขกลุ่มนี้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 กค. สถานการณ์โควิดปัตตานี ยังคงวิกฤติ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง โเยยิดผู้ป่วยวันที่ 28 กค. มียอดผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 211 คนสะสม 8,409 คน รักษา 5133 คน และพบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 1ราย
ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 113 คน ซึ่งทางจังหวัดปัตตานีพยายามหาทางออก หามาตรการป้องกันต่างๆ ในการที่ลดจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตให้ลงอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีน ซึ่งตอนนี้จะเร่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากพบว่ากลุ่มติดเชื้อ และเสียชีวิตมาก ใน จ.ปัตตานี อีกทั้งวัคซีนก็ยังไม่เข้าถึงในพื้นที่เขตชนบท
ล่าสุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายราชิด สุดพุ่ม พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อนำวัคซีนยีห้อแอสตร้าเซนเนก้า ไปฉีดเข็มแรกให้กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 300 คน ในหมู่ 1 หมู่ 4 และหมู่ 6 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังทราบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุในพื้นที่ค่อนข้างมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไกลได้ อีกทั้งหลานๆของผู้สูงอายุมีความกังวลที่จะเคลื่อนย้ายและเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนว่า ให้มีการฉีดวัคซีนถึงหมู่บ้าน หรือชุมชน เนื่องจากผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือกลุ่มที่บกพร่องทางรางกาย จะไม่สามารถเดินทางไกลได้
ด้านนายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตที่มาก เนื่องจากผู้ป่วยตอนที่เข้ามารพ. ก็อยู่ในกลุ่มสีเหลืองเข้ม และสีแดงแล้ว และเสี่ยงที่จะเสียชีสิตสูง ซึ่งจังหวัดก็ไม่อยากโทษชาวบ้าน แต่เราต้องรู้จักป้องกันตนเองให้มากกว่านี้ ไม่จำเป็นก็อย่าออกนอกบ้าน ยกเว้นจะออกมาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค เช่นเดียวกัน หากจะเดินทางไปต่างจังหวัดตอนนี้ให้งดเดินทางไปก่อน เพื่อป้องกันการติด้ขื้อ ซึ่งหากทุกคนใช้มาตรการเหล่านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะลดลงได้
นายราชิต สุดพุ่ม เผยอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือ ยังมีผู้สูงอายุที่จะไม่ค่อยฉีดวัคซีนกัน เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมีความคิดว่าอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน จึงขอฝากไปยังผู้สูงอายุ ถึงแม่ไม่ได้ออกไปไหน แต่มีลูกหลานที่ต้องออกไปทำงาน ถ้าป้องกันไม่ดี ลูกหลานอาจจะพาเชื้อเข้ามาได้
นายราชิต สุดพุ่ม เผยตอนท้ายว่า ตอนนี้จังหวัดได้พยายามป้องกันกลุ่มเปราะบางเสียชีวิต โดยเร่งออกมาบริการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปในทุกพื้นที ซึ่งหากทุกคนได้รับวัคซีน ก็จะลดอัตราการเสียชีวิตได้
ล่าสุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายราชิด สุดพุ่ม พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อนำวัคซีนยีห้อแอสตร้าเซนเนก้า ไปฉีดเข็มแรกให้กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 300 คน ในหมู่ 1 หมู่ 4 และหมู่ 6 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังทราบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุในพื้นที่ค่อนข้างมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไกลได้ อีกทั้งหลานๆของผู้สูงอายุมีความกังวลที่จะเคลื่อนย้ายและเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนว่า ให้มีการฉีดวัคซีนถึงหมู่บ้าน หรือชุมชน เนื่องจากผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือกลุ่มที่บกพร่องทางรางกาย จะไม่สามารถเดินทางไกลได้
ด้านนายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตที่มาก เนื่องจากผู้ป่วยตอนที่เข้ามารพ. ก็อยู่ในกลุ่มสีเหลืองเข้ม และสีแดงแล้ว และเสี่ยงที่จะเสียชีสิตสูง ซึ่งจังหวัดก็ไม่อยากโทษชาวบ้าน แต่เราต้องรู้จักป้องกันตนเองให้มากกว่านี้ ไม่จำเป็นก็อย่าออกนอกบ้าน ยกเว้นจะออกมาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค เช่นเดียวกัน หากจะเดินทางไปต่างจังหวัดตอนนี้ให้งดเดินทางไปก่อน เพื่อป้องกันการติด้ขื้อ ซึ่งหากทุกคนใช้มาตรการเหล่านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะลดลงได้
นายราชิต สุดพุ่ม เผยอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือ ยังมีผู้สูงอายุที่จะไม่ค่อยฉีดวัคซีนกัน เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมีความคิดว่าอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน จึงขอฝากไปยังผู้สูงอายุ ถึงแม่ไม่ได้ออกไปไหน แต่มีลูกหลานที่ต้องออกไปทำงาน ถ้าป้องกันไม่ดี ลูกหลานอาจจะพาเชื้อเข้ามาได้
นายราชิต สุดพุ่ม เผยตอนท้ายว่า ตอนนี้จังหวัดได้พยายามป้องกันกลุ่มเปราะบางเสียชีวิต โดยเร่งออกมาบริการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปในทุกพื้นที ซึ่งหากทุกคนได้รับวัคซีน ก็จะลดอัตราการเสียชีวิตได้