จากสถานการณ์โควิดปัตตานีที่ยังคงวิกฤติ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดผู้ป่วยสะสม 8,201 คน รักษา 4,994 คน และยอดผู้เสียชีวิตสะสม 112 คน ซึ่งทางจังหวัดปัตตานีพยายามหาทางออก และหามาตรการป้องกันต่างๆ ในการที่ลดจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตให้ลงอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีน ซึ่งตอนนี้จะเร่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากพบว่ากลุ่มติดเชื้อ และเสียชีวิตมากใน จ.ปัตตานี อีกทั้งวัคซีนก็ยังไม่เข้าถึงในพื้นที่เขตชนบท ล่าสุดวันนี้ (28 ก.ค.)นายราชิด สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อนำวัคซีนยีห้อแอสตร้าเซนเนก้า ไปฉีดเข็มแรกให้กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวนกว่า 300 คน ในหมู่ 1 หมู่ 4 และหมู่ 6 ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังทราบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุในพื้นที่ค่อนข้างมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไกลได้ ยกเว้นใกล้ๆบ้าน อีกทั้งหลานๆที่มีผู้สูงอายุมีความกังวลที่จะเคลื่อนย้ายและเดินทางไกล อย่างไรก้ตาม ยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนว่า ให้มีการฉีดวัคซีนถึงหมู่บ้าน หรือชุมชน เนื่องจากผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือกลุ่มที่บกพร่องทางรางกาย จะไม่สามารถเดินทางไกลได้ อีกทั้งค่าใช้จ่ายการเดินทางอีก เนื่องจากสถานการณ์โควิด ชาวบ้านหลายคนไม่มีเงินค่าเดินทาง ด้านนายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 300 กว่าคน เพราะได้รวมกับผู้ติดเชื้อในเรือนจำด้วย จำนวน 99 คน ซึ่งตอนนี้เรือนจำก็กำหนดให้เป็นพื้นทีซิลไปแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตที่มาก เนื่องจากผู้ป่วยตอนที่เข้ามาแรกๆ ก็อยู่ในกลุ่มสีเหลืองเข้ม และสีแดงแล้ว และเสี่ยงที่จะเสียชีสิตสูง ซึ่งจังหวัดก็ไม่อยากโทษชาวบ้าน แต่เราต้องรู้จักป้องกันตนเองให้มากกว่านี้ ไม่จำเป็นก็อย่าออกนอกบ้าน ยกเว้นจะออกมาซื้อเครื่องอุปดภคบริโภค เช่นเดียวกัน หากจะเดินทางไปต่างจังหวัดตอนนี้ให้งดเดินทางไปก่อน เพื่อไม่ให้เชื้อขยายขึ้นไปอีก ซึ่งหากทุกคนใช้มาตรการเหล่านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะลดลงได้ นายราชิต สุดพุ่ม เผยอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือ ยังมีผู้สูงอายุที่จะไม่ค่อยฉีดวัคซีนกัน เนื่องจากมีความคิดว่าอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน จึงขอฝากไปยังผู้สูงอายุ ถึงแม่ไม่ได้ออกไปไหน แต่มีลูกหลานที่ต้องออกไปทำงาน ถ้าป้องกันไม่ดี ลูกหลานอาจจะพาเชื้อเข้ามาได้ นายราชิต สุดพุ่ม เผยตอนท้ายว่า ตอนนี้จังหวัดได้พยายามป้องกันกลุ่มเปราะบางเสียชีวิต โดยเร่งออกมาบริการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้องรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปในทุกพื้นที ซึ่งหากทุกคนได้รับวัคซีน ก็จะลดอัตราการเสียชีวิตได้