Fruit Board ผุดโครงการ “เกษตรกรแฮปปี้” เชิญชวนคนไทยร่วมด้วยช่วยกัน ซื้อผลไม้ไทยในตลาดออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือชาวสวนที่ประสบปัญหาราคามังคุด เงาะ ลำไย ตกต่ำจากวิกฤตโควิด-19 จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผลไม้ไทยในฤดูกาลผลิตปีนี้ โดยเฉพาะมังคุด และเงาะ ในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด ที่มีผลผลิตออกมาพร้อมกันประสบปัญหาอย่างมาก ทั้งในเรื่องราคาที่ตกต่ำกว่าทุกปี โดยมังคุดราคาอยู่ที่ประมาณ 20-35 บาท/กิโลกรัม เงาะราคาอยู่ที่ 30-35 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านการขนส่ง เนื่องจากบางพื้นที่ในการจัดส่งเป็นจังหวัดพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้มสูงสุด ทำให้รถขนส่งเอกชนที่เคยรับจ้างเหมือนทุกปี ไม่ยอมไปส่งผลไม้ในพื้นที่ดังกล่าวเพราะกลัวถูกกักตัว 14 วัน ขณะที่ล้งที่เคยรับซื้อผลไม้ขนาดใหญ่หลายแห่งต้องปิดตัวกระทันหันจากสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ไม่สามารถรับซื้อผลไม้ไปจำหน่ายได้ ส่วนพื้นที่ภาคเหนือก็เป็นช่วงที่ลำไยเริ่มมีผลผลิตออกมามากเช่นกัน โดยเฉพาะที่จังหวัดพะเยา ขณะนี้ก็ประสบปัญหาในทำนองเดียวกันเพราะไม่มีตลาดมารับซื้อลำไยและระบบการขนส่งติดขัด นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ภาครัฐต้องเร่งทำงานอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้วิกฤตที่เกิดขึ้นกับเกษตรกร โดยเฉพาะปัญหามังคุดภาคใต้ที่ราคาตกต่ำลงมาก รวมทั้งลำไย ภาคเหนือที่ออกผลผลิตมามากในฤดูกาลนี้ โดยคณะกรรมการบริหารและจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่มี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารและจัดการผลไม้ จึงได้เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ด้วยการส่งเสริมการขายสินค้าเกษตรออนไลน์ขึ้น ในชื่อโครงการ “เกษตรกรแฮปปี้” เพื่อกระตุ้นการซื้อ การขายและส่งเสริมการบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการนำผลไม้ในฤดูกาลผลิตปีนี้คือมังคุด จังหวัดนครศรีธรรมราช เงาะ จังหวัดสุราษฎรณ์ธานี และลำไย จังหวัดพะเยา จากเกษตรกรมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มของไปรษณีย์ไทย ทาง facebook page : Thailandpostmart หรือเว็บไซต์ Thailandpostmart ควบคู่กับการให้ความรู้แก่เกษตรกรชาวสวนตัวจริง และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ในพื้นที่ได้เรียนรู้การขายผลไม้ไทยในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดและเพิ่มพื้นที่ขายผลไม้ได้มากขึ้น ขณะที่เกษตรกรชาวสวนต่างมีความตื่นตัวกับการค้าในรูปแบบออนไลน์นี้ หรือที่เรียกันว่า Pre-Order โดยได้เริ่มปรับตัว เรียนรู้และเปิดรับการตลาดแนวใหม่นี้ ด้วยการทำ Line My Shop และ QR Cord เพื่อให้ผู้ซื้อหรือลูกค้าสามารถทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และราคาที่นำมาขาย ซึ่งจะช่วยให้สามารถขายผลไม้ในรูปแบบตลาดออนไลน์ได้มากขึ้นด้วย สำหรับผลไม้ที่เกษตรชาวสวนได้นำมาขายบนเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย www.Thailandpostmart.com นี้ ประกอบด้วย มังคุด นครศรีธรรมราช 20,000 กิโลกรัม/ราคากิโลกรัมละ 50 บาท เงาะ สุราษฎร์ธานี 15,000 กิโลกรัม/ราคากิโลกรัมละ 62.5 บาท และลำไย พะเยา 30,000 กิโลกรัม/ราคากิโลกรัมละ 56 บาท (รวมค่าส่งแล้ว) ซึ่งเป็นผลไม้ที่คัดเกรดอย่างดี มีคุณภาพระดับพรีเมียม แต่ราคาสบายกระเป๋า ที่สำคัญคือปลอดสารตกค้าง สามารถซื้อมารับประทานกันได้ทั้งครอบครัว สด สะอาด อร่อย ส่งตรงจากสวนเพื่อความสุขของพี่น้องชาวไทยทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของผลไม้ไทย ที่ใน 1 ปี มีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น อีกทั้ง ยังเป็นการช่วยเหลือและต่อลมหายใจให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยของเรา และเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก ในยามที่โควิด-19 คุกคามชีวิตพี่น้องชาวไทย และเราทุกคนจะร่วมมือกันก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน ผู้บริโภคที่สนใจผลไม้เกรดพรีเมียมและได้ช่วยอุดหนุนพี่น้องเกษตรกรโดยตรงสามารถ scan ซื้อที่ QR Code ของโครงการได้เลย