สืบบางเขน รวบสาววัย 28 ปี ควงแฟนเก่าและแฟนใหม่ ตระเวนตัดสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ขาย ก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 ก.ค. พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.สุนทร ไชยรักษา รอง ผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ต.พรชัย ว่องประเสริฐการ สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.อ.จตุรพิญช มณีนิล ร.ต.อ.ธีระ หล้านามวงษ์ ร.ต.ต.มงคล ดวงเพชรแสง รอง สว.สส.สน.บางเขน พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนร่วมกันจับกุมตัว นายพูลสวัสดิ หรือเปา สารสีมา อายุ 31 ปี , น.ส.วิภา หรือ ทิพย์ สุขเสียงศรี อายุ 28 ปี ,นายสุนา หรือหยอง พวงมาลา อายุ 42 ปี และ นายอนันตชัย หรือ นัน หวะสุวรรณ อายุ 46 ปี พร้อมของกลาง สายเคเบิ้ลโทรศัพท์ 4 เส้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว ความจุ 600 คู่สาย 1,200 เส้น รวมถึงสายเคเบิ้ลที่ปอกฉนวนหุ้มออกแล้วน้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม , รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิน สีแดง หมายเลขทะเบียน 3 ขพ 2409 กรุงเทพมหานคร, รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิน สีแดง ไม่ติดแผ่นป้าย 1 คัน คีมตัดท่อน้ำประปา 2 อัน, ยาบ้า 120 เม็ด, อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก โดยจับกุมได้ที่ บริเวณ ริม ถ.ประเสริฐมนูกิจ ช่วงตอม่อที่ 15 ต่อเนื่อง พิชาแมนชั่น ซ.รามอินทรา 115 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมาตัวแทน บริษัท ทีโอที จำกัด ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สน.บางเขน ว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนในช่วงเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ในพื้นที่ย่านเกษตรนวมินทร์ ระหว่าง ตอม่อ ที่ 11-15 มักจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และเมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพบมีสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ถูกคนร้ายตัดไป จึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน จึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายและหญิงตระเวนใช้รถ จยย. ก่อเหตุ และนำไปขายที่ร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง จากนั้นตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายจำนวน 3 คนกำลังตัดสายไฟที่ตอม่อ 15 ย่สนเกษตรนวมินทร์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบ น.ส.วิภา,นายพูลสวัสดิ และนายสุนา กำลังช่วยกันตัดสายไฟจึงจับกุม และตรวจยึดของกลางทั้งหมด รวมถึงยาบ้าที่ซุกซ่อนในเบาะรถจยย.อีกด้วย และจากการขยายผลพบว่ามีนายอนันตชัย ซึ่งเป็นสามีเก่าร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ และถูกตำรวจจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์ย่านรามอินทรา พร้อมอาวุธปืน จึงคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สน.บางเขน พฤติการคนร้ายจะตระเวนลักตัดสายเคเบิ้ล โดยใช้วิธีขี่รถ จยย.ไปในพื้นที่เปลี่ยว ไม่มีผู้คน และเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยจะเลือกเสาไฟที่มีต้นไม้บังเพื่อให้ง่ายต่อการก่อเหตุ จากนั้นจะปีนต้นไม้และใช้คีมตัดท่อประปา ตัดสายเคเบิ้ลลงมา และตัดอีกครั้งให้สั้นลงเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้าย จากนั้น ขี่ จยย.ไปในจุดที่ลับตาคนเพื่อนำสายไฟไปเผาพลาสติกออกเพื่อเอาแต่เส้นทองแดงภายใน และนำใส่กระสอบไปขายที่ร้านขายของเก่าย่านประเสริฐมนูกิจ ได้ราคากิโลกรัมละ 240 บาท ตั้งแต่ก่อเหตุได้เงินมาแล้ว 12,000 บาท จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าก่อเหตุเป็นครั้งแรก โดยนายพูลสวัสดิ์ ซึ่งเป็นแฟน ของ น.ส.วิภา จะร่วมกันตระเวนลักตัดสายเคเบิ้ล เพื่อนำไปขายร้านขายของเก่า และ น.ส.วิภาก็จะไปร่วมมือกับ นายอนันตชัย ซึ่งเป็นอดีตสามี ตระเวนก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยทั้งแฟนเก่าและอดีตสามี จะใช้รถ จยย.ยี่ห้อ สี รุ่นเดียวกันในการก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าจะทั้งสองคนจะไม่รู้จักกัน ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปใช้จ่ายส่วนตัว เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจาก มีการรับแจ้งว่ามีการตัดสายไฟในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่ สน.โคกคราม ,สน.ลาดพร้าว และ สน.บึงกุ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล หลังจากนี้ตำรวจจะแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเพิ่มข้อหา มียาเสพติดประเภท1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กับ นายพูลสวัสดิ์ กับ น.ส.วิภา ส่วนนายอนันตชัย ตำรวจจะแจ้งข้อเพิ่มเติมคือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีต่มกฎหมายต่อไป.