"ครม."อนุมัติกรอบวงเงิน 15,027 ล้านบาท เยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม. 33 ใน 9 ประเภทกิจการ 13 จังหวัดแดงเข้ม
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวน 15,027.686 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.99 ล้านบาท จากเดิม 13,504.696 ล้านบาท โดยเพิ่มจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเร่งประมาณการจำนวนนายจ้างและผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า กรอบวงเงิน 15,027.686 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินช่วยเหลือให้แก่นายจ้างในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จังหวัดกลุ่มเป้าหมาย 7,238.631 ล้านบาท และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789.055 ล้านบาท ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้
วันเดียวกัน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้มอบหมายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการแจกจ่ายอาหารพร้อมมอบอาหารแก่แรงงานต่างด้าวในแคมป์ก่อสร้างที่มีคำสั่งปิดตามประกาศกรุงเทพมหานครย่านจัตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 โดยแคมป์ที่มาตรวจเยี่ยมในวันนี้เป็นแคมป์ของบริษัท เวลเกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เลขที่ 44/3 ถนน กำแพงเพชร 6 แขวง ลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีแรงงานในแคมป์จำนวน 130 คน ซึ่งในแคมป์นี้แรงงานทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100%
โดยกรมการจัดหางานได้รับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรีสุชาติ ให้ติดตามช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวในแคมป์ก่อสร้างด้านอาหารอย่างใกล้ชิด ตามดำริพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ที่มีความห่วงใยสุขภาพและความเป็นอยู่ของแรงงานในแคมป์ที่ถูกปิดจากประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่34) ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2564 เพื่อควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม โดยตั้งแต่วันที่ 12 - 27 กรกฎาคม 2564 กรมการจัดหางานได้สนับสนุนค่าอาหารวันละ 1 มื้อ ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่คนต่างด้าวด้านอาหาร
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร มอบหมายสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 รวบรวมอาหารและนำส่งแคมป์คนงานในพื้นที่รับผิดชอบ ในส่วนปริมณฑลมอบหมายสำนักงานจัดหางานจังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรปราการดูแลในพื้นที่ของตน ซึ่งที่ผ่านมาการแจกจ่ายข้าวกล่องเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่เสนอต่อกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง โดยจัดทำข้าวกล่องทั้งสิ้น 1,250,000 กล่อง แบ่งแจกจ่ายในกรุงเทพมหานคร จำนวน 750,000 กล่อง และปริมณฑล จำนวน 500,000 กล่อง การดำเนินการในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แรงงานในแคมป์แล้ว ยังช่วยให้ชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอย สมาคมภัตตาคารไทย และผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณแคมป์งานที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมีรายได้จากการสั่งซื้ออาหารเพื่อนำไปแจกจ่ายแก่แรงงานในแคมป์อีกด้วย
ด้านผู้ดูแลแคมป์คนงาน กล่าวว่า ขอขอบคุณภาครัฐ นายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงานที่เล็งเห็นความสำคัญแรงงานที่สร้างเศรษฐกิจ ช่วยแบ่งเบาภาระบริษัท แรงงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากเดิมที่มีความตึงเครียดจากการแพร่กระจายไวรัสโควิด มีแต่ความกังวล ปัจจุบันแรงงานในแคมป์รู้วิธีป้องกัน ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น การจะก้าวพ้นวิกฤตินี้ทุกคนต้องให้ความร่วมมือเป็นทีมเวิร์คเพื่อพ้นวิกฤติ จากที่สัมผัสแรงงานมาหลายปีทั้งเมียนมา กัมพูชา ลาว ทุกคนก็ยินดีจะให้ความร่วมมือ