เมื่อวันที่  27 ก.ค. ที่รัฐสภา นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.พรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เกิดจากการที่รัฐบาลรวมศูนย์อำนาจการบริหารจัดการไว้ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ว่า ตนขอเสนอให้รัฐบาลใช้ 3 เสาหลักในหมู่บ้าน ตำบล เป็นฐานในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ประกอบด้วย 1. อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล (รพสต.) 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ 3. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการตรวจหาผู้ติดเชื้อและคัดกรองบุคคลในครัวเรือนและในชุมชนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยดำเนินการดังนี้ 1.ทำการตรวจเชิงรุกทุกครัวเรือน เพื่อหาผู้ติดเชื้อ 2.สำรวจผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนในหมู่บ้าน 3. คัดกรองบุคคลในครัวเรือนทุกหมู่บ้านและเฝ้าระวังบุคคลที่กลับมายังภูมิลำเนา 4.การคัดแยกบุคคล โดยการกักตัวที่บ้านและการใช้ รพสต. ศูนย์บริการสาธารณสุข อปท. และโรงเรียนเป็นโรงพยาบาลสนาม หรือจุดพักคอย ส่วนผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงจะดำเนินการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจังหวัดและเอกชนต่อไป 5.สำรวจครัวเรือน บุคคลและสถานประกอบการในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบและอยู่ในภาวะยากลำบากเพื่อเสนอให้จังหวัดและรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย นายโกวิทย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณให้ 76 จังหวัดในการบริหารจัดการ ประมาณ 76,000 ล้านบาท และจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่น จำนวน 7,850 แห่ง เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 157,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบริหารจัดการของจังหวัดและท้องถิ่น ดังนี้ 1.ช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบและอยู่ในภาวะยากลำบาก ในหมู่บ้านที่ถูกกักตัว 2.สำหรับจัดหาเครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-19 และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ 3.ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามและค่าดำเนินการอื่น ๆ