นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ กทม. เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนี้ ภายใต้การดำเนินงานของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม ถึง 25 กรกฎาคม 2564 ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว 988,788 โดส มีบุคลากรกว่า 422 คน ซึ่งได้รับการตรวจหาเชื้อเป็นระยะๆ ที่ผ่านมายังไม่พบบุคลากรที่ให้บริการติดเชื้อ โดยในวันนี้กระทรวงคมนาคม เข้ามาวางระบบให้มีการเว้นระยะห่างเพิ่มเติม เพื่อลดความแออัด และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสวมหน้ากาก 100% พร้อมมีจุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เป็นระยะ เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อ
สำหรับสถานการณ์ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่เป็นผู้สูงอายุ อยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ปรับแผนการให้บริการเน้นฉีดกลุ่ม “602” คือ ผู้สูงอายุ 60ปี ขึ้นไป, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์ เพราะหากกลุ่มนี้ติดเชื้อจะมีความรุนแรงและเสี่ยงเสียชีวิตสูง
ที่ผ่านมา มีกลุ่มดังกล่าวเข้ารับบริการเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวก อาจเกิดความหนาแน่นในบางช่วงเวลา เช่น 8.00 – 10.00 น. จึงขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงการเข้ารับบริการช่วงเวลาดังกล่าว แนะมาช่วงบ่ายจะช่วยลดความแออัดได้ รวมถึงปรับแผนจุดให้บริการ โดยผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี สุขภาพแข็งแรง และมีความสมัครใจ สามารถไปจุดลงทะเบียนโดยไม่ต้องวัดความดัน ส่วนในผู้ที่ทำการจองนัดผ่าน 4 ค่ายมือถือ มีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว เมื่อถึงวันนัดให้ใช้แอพพลิเคชัน “วัคซีนบางซื่อ” เพื่อกรอกข้อมูลลงทะเบียน รับใบคัดกรอง และผ่านเข้าจุดการฉีดวัคซีนได้เลย
ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ เปิดให้บริการ Walk in สำหรับผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และหญิงตั้งครรภ์ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งในระยะต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังที่ผ่านการลงทะเบียนเท่านั้น เฉลี่ยวันละ 20,000 คน