วันอังคาร (20 ก.ค.) ระบบการขนส่งทางรางด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูงหรือรถไฟ ‘แมกเลฟ’ (Maglev) ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของจีน ซึ่งสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลิตและพัฒนาโดยบริษัทไชน่า เรลเวย์ โรลลิง สตอก คอร์เปอร์เรชั่น (CRRC) ออกจากสายการผลิตในนครชิงเต่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยถือว่าเป็นระบบการขนส่งทางรางด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูงของจีนที่สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแห่งแรกของโลก นับเป็นความก้าวหน้าที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญของจีนด้านเทคโนโลยีวิศวกรรม ‘แมกเลฟ’ ความเร็วสูงอย่างครบวงจร
ความสำเร็จในการผลิตและพัฒนารถไฟ ‘แมกเลฟ’ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ขึ้นสูงของจีน ก่อให้เกิดข้อได้เปรียบใหม่ด้านการขนส่งทางราง พร้อมยึดตำแหน่งผู้นำในการแข่งขันด้านเทคโนโลยี ทั้งยังช่วยเร่งสร้างระบบโครงข่ายคมนาคมที่ทันสมัยอย่างครบวงจร และสนับสนุนยุทธศาสตร์ “ประเทศมหาอำนาจทางด้านวิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” และ “ประเทศมหาอำนาจทางด้านคมนาคม”ของจีน
ทั้งนี้ จีนได้เริ่มดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงแมกเลฟตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 ต่อมาในปี 2019 ได้พัฒนาต้นแบบรถไฟดังกล่าว ก่อนจะทดสอบวิ่งสำเร็จที่มหาวิทยาลัยถงจี่ มณฑลเซี่ยงไฮ้ของจีนในเดือนมิถุนายน 2020 หลังผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ และกำหนดแผนดำเนินงานทางเทคนิคในขั้นสุดท้าย หลังทดสอบวิ่งสำเร็จทางคณะวิศวกรใช้เวลาตลอดระยะเวลา 6 เดือนในการพัฒนาและบูรณาการระบบขนส่งแมกเลฟจนเสร็จสมบูรณ์พร้อมในเดือนมกราคม 2021 ซึ่งโครงการนี้จีนได้ใช้เวลาร่วม 5 ปี จึงสามารถประสบความสำเร็จในการนำระบบการขนส่งทางรางด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออกจากสายการผลิตได้อย่างเป็นทางการ
ณ ขณะนี้รถไฟแมกเลฟถือเป็นยานพาหนะภาคพื้นดินที่มีความเร็วมากที่สุดในโลก สามารถเดินทางตรงตามตารางเวลาจริงได้อย่างแม่นยำ และเป็นรูปแบบการเดินทางภายในระยะทาง 1,500 กิโลเมตรที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด