เมื่อวันที่ 25 ก.ค.นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวระบุว่า นับตั้งแต่มีรายงานทางการแพทย์ไทย ระบุว่าคนที่ฉีด ซิโนแวค 2 เข็ม เมื่อผ่านไปหลัง 2 เดือนภูมิคุ้มกันจะลดลงมาก และการป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ผลไม่มาก จำเป็นจะต้องฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หรือ วัคซีน mRNA จึงมีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์นักรบด่านหน้า 700,000 คน เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันสูงขึ้นมีประสิทธิภาพในการต้านโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้สูงขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในไทย และต่อมามีการแถลงของสถานทูตอเมริกาแจ้งว่าอเมริกาบริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้ไทย 1.5 ล้านโดส ซึ่งตามข่าวคาดว่าจะเข้ามาปลายเดือนกรกฎาคมนี้
จึงเกิดทางเลือกที่ให้รัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะใช้ แอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ ด่านหน้า 700,000 คน ปรากฏว่า เกิดปัญหาความสับสนความไม่ชัดเจนขึ้นมาอีก จากที่ บอกว่าจะจัดสรร Pfizer ให้ 700,000 โดส ต่อมาเหลือ 500,000 และต่อมามีข่าวลือว่าเหลือ 200,000 โดส
การบริหารจัดการวัคซีน Pfizer แบบสับสนในครั้งนี้ มีคำถามจากบุคลากรด่านหน้ามากมายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญนักรบด่านหน้า ที่เสียชีวิตอยู่ทุกวันแค่ไหน อย่างไร การสร้างความสับสน เพื่อให้นักรบด่านหน้า หันไปฉีด Az ใช่หรือไม่ รัฐบาลจะเอาวัคซีน Pfizer ไปฉีดให้ใครแทนที่สำคัญกว่านักรบด่านหน้า
“ผมจึงขอเสนอให้รัฐบาล รีบดำเนินการโดยเร่งด่วน ดังนี้
1.รัฐบาลแถลงให้ชัดเจนว่าวัคซีนเข็ม 3 ของนักรบด่านหน้า 700,000 คน จะให้ฉีด Az หรือ Pfizer พร้อมเหตุผลที่ชัดเจน
2.รัฐบาลประกาศกำหนดวันที่ทาง อเมริกา นัดส่งมอบวัคซีน Pfizer 1.5 ล้านโดสให้ไทย
3.กำหนดการจัดสรรวัคซีน pfizer ลำดับแรก ให้นักรบด่านหน้า 700,000 คน ก่อน ยกเว้นคนที่ต้องการฉีด Az
4.ประชาชนที่ฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 โดส จำนวน 3.2 ล้านคน รัฐบาลจะให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 อย่างไร
5.ขอให้รัฐบาลออกมาตอบคำถามว่า ทำไมตำรวจ 11 นายที่ จ.บุรีรัมย์ได้รับการฉีดAZ เข็ม 3 ตั้งแต่ 23กค.64”
#save นักรบด่านหน้า
#สร้างความชัดเจนวัคซีนเข็ม 3