จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ยายได้สั่งของผ่านแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารชื่อดัง และโอนเงินผิด เมื่อติดต่อขอคืนไรเดอร์ระบุว่าใช้เงินไปหมดแล้ว และติดต่อไม่ได้
ล่าสุด แกร็บได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากกรณีที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่สั่งอาหารผ่าน GrabFood ซึ่งได้โอนเงินค่าบริการเกินจำนวนไปให้พาร์ตเนอร์คนขับนั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงในข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ ดังนี้
• บริษัทฯ ได้รับทราบถึงกรณีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ทำการติดต่อผู้ใช้บริการในทันทีเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือ
• ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พยายามติดต่อพาร์ตเนอร์คนขับซึ่งถูกอ้างถึงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยในระหว่างที่มีการตรวจสอบและติดตามผล บริษัทฯ ได้ทำการระงับสัญญาณการให้บริการของพาร์ตเนอร์คนขับรายดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
• จากการติดตามและประสานงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด (วันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.18 น.) พาร์ตเนอร์คนขับรายดังกล่าวได้ทำการโอนเงินส่วนเกินเพื่อคืนให้กับผู้ใช้บริการแล้ว โดยได้ส่งสลิปการโอนเงินผ่านทางธนาคารให้กับบริษัทฯ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยืน ซึ่งผู้ใช้บริการได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
• ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์ และระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าข่ายการก่ออาชญากรรม บริษัทฯ จะดำเนินการระงับสัญญาณการให้บริการกับพาร์ตเนอร์คนขับเป็นการถาวร ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นสูงสุด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า แกร็บให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจโดยเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยได้ส่งเสริมให้พาร์ตเนอร์คนขับปฏิบัติตาม "จรรยาบรรณของพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บ" ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นด้านการปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อรักษามาตรฐานที่ดีและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคน
ขอแสดงความนับถือ
แกร็บ ประเทศไทย