วันที่ 23 ก.ค.64 เวลา16.55 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.ท.ธีรพงษ์ บุญชูวงศ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 15 ต.พระแท่นฯ อ.ท่าทะกาฯ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)จุดรอรับเหตุ อ.ท่าทะกา ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ เมื่อตรวจสอบบริเวณด้านหลังบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอกับต้นตะขบเสียชีวิตอยู่ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำศพลงมาเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบว่า ตามร่างกายไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย จุดที่พบศพก็ไม่มีร่องรอยก่รต่อสู้ พบเพียงกระป๋องน้ำขนาดกลางวางคว่ำอยู่กับพื้นดิน ซึ่งคาดว่าผู้ตายคงใช้เท้าเหยียบกระป๋องน้ำขณะแขวนคอแล้วถีบกระป๋องน้ำออกทิ้งตัวลงมา แพทย์ลงความเห็น เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 ชม. จากการสอบสวนแม่ผู้ตายและญาติๆ ทราบว่า ผู้ตายชื่อนายชาคริต ชมเชย อายุ 38 ปี อยู่บ้านตามทะเบียนบ้านเลขที่ 111 หมู่ 15 ต.พระแท่นฯ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผู้ตายมีอาขีพขับรถแท็กซี่รับจ้างอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนหน้าเมื่อเดือนที่ผ่านมา นายชาคริต ผู้ตายได้เดินทางกลับมาบ้านบอกกับแม่และญาติๆ ว่าไม่ได้ขับแท็กซี่แล้ว เพราะโรคโควิด-19 ระบาดหนักในกรุงเทพฯ เมื่อกลับมาบ้านจึงถูกกักตัวที่ รพ.มะการักษ์นาน 14 วัน จนเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายบ่นว่าตกงานไม่รู้จะไปทำงานอะไร ไม่มีเงินแม้กระทั่งค่าเช่ารถแท็กซี่ ทางแม่ของผู้ตายจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งบอกให้กลับไปขับรถแท็กซี่ที่กรุงเทพเหมือนเดิม แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา นายชาคริต ผู้ตายได้เดินทางกลับมาบ้าน และบอกกับแม่ว่า ตกงาน ตอนนี้สถานการณ์โรคโควิดในกรุงเทพมหานครฯ ระบาดหนักมาก ผู้ตายจึงคิดมาก วันๆ ไม่พูดจากับใคร มักจะบ่นว่า เครียดเพราะตกงาน ไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร จนกระทั่งมาพบอีกที ผู้ตายใช้ผ้าขาวมาแขวนคอตายแล้ว คาดว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายแขวนคอฆ่าตัวตายครั้งนี้ คงเกิดจากอาการเครียด คิดมากหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ จึงตัดสินใจผูกคอตายดังกล่าว สอบถามแม่ผู้ตายและญาติๆ ไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบร่างให้แม่และญาติๆ นำศพไปจัดการฌาปณกิจตามพิธีการทางศาสนาต่อไป