จำกัดกลุ่ม รับฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มทำวุ่น ชาวบ้านแปดริ้วรอเก้อก่น อปท.จนเสียงขม สุดท้ายผู้บริหารตั้งโต๊ะแจกแจง เหตุองค์กรผู้จัดสรรปล่อยโควต้าให้มาแบบกระปิดกระปอย แค่เพียง 5 พันสิทธิ์ ทั้งที่สั่งจองไปมากถึง 1 แสนโดส ขณะผู้มีสิทธิลงทะเบียนจองล็อตแรกรุมทึ้งเหมาพรึบเดียวเพียงไม่ถึง 1 ชม.เกือบหมดเกลี้ยง
วันที่ 23 ก.ค.64 เวลา 16.29 น. ผู้สื่อข่าวได้รับคลิบวีดีโอคำแถลงการณ์ของนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ผ่านมาทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (อบจ.) เพื่อชี้แจงถึงกรณีมีเสียงสะท้อนมาจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ต้องการรอรับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม แต่ล้วนต่างพากันผิดหวังไปตามๆ กัน หลังจากมีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มเปาะบางได้จองสิทธิ์ในการเข้ารับวัคซีนในวันนี้เป็นวันแรก ผ่านทางระบบการจองบนไลน์แอพพลิเคชั่น
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา กลับไม่สามารถที่จะใช้สิทธิ์ในการจองได้ และแม้แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ในบางกลุ่ม ก็ยังมีหลายคนผิดหวังจากการเปิดให้จองสิทธิ์ในครั้งนี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากสิทธิในการจองฉีดวัคซีนที่จำนวน 5 พันคนได้มีการจองจนเต็มสิทธิ์ไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงประมาณ 1 ชม. และเหลือเพียงบางสิทธิ์เฉพาะที่ต้องเป็นผู้พิการ และเป็นนักบวชเท่านั้น ที่ยังเหลืออยู่ในช่วง 1-2 ชม.แรกหลังการเปิดให้จองสิทธิ์
ขณะที่คำออกแถลงการณ์ของ นายกิตติ ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ทำให้มีชาว จ.ฉะเชิงเทรา ติดเชื้อโควิด 19 เป็นจำนวนมาก ประกอบกับวัคซีนในการป้องกันโรคยังมีไม่เพียงพอ อบจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ทำการจองวัคซีนซิโนฟาร์มจากทาง ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส หรือ 50,000 คน ตามสถานะทางการคลัง
แต่ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาในรอบแรก เมื่อวันที่ 14 ก.ค.64 มาจำนวน 1 หมื่นโดสหรือ 5 พันคน และยังต้องทำตามเงื่อนไข โดยให้สิทธิ์ในการฉีดไปยังกลุ่มเป้าหมายตามที่ราชวิทยาลัยกำหนดเป็นลำดับแรกก่อน คือ กลุ่มเปราะบาง 5 กลุ่มหลัก และจากการที่สั่งซื้อไป 1 แสนโดสแต่วัคซีนมาเพียง 1 หมื่นโดส ได้สร้างความอึดอัดใจให้แก่ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นอย่างมาก ที่เราไม่สามารถบริหารจัดการเองได้
จึงขอชี้แจงว่า ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ไม่ได้มีการล็อกสิทธิ์เอาไว้ ว่าจะให้สิทธิ์แก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามที่ประชาชนทั่วไปเชื่อกัน ว่ามีการล็อกเอาไว้ให้แก่บุคคลวีไอพี หรือผู้หนึ่งผู้ใดกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดนั้นไม่มี ไม่ว่าจะเป็นพนักงานภายใน อบจ.ฉะเชิงเทรา หรือครอบครัวนั้น ไม่มีผู้ใดลงทะเบียนได้สิทธิ์แม้แต่รายเดียว เนื่องจากมีการจำกัดไว้แบบเฉพาะ 5 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้พิการจำนวน 2,500 คน 2.กลุ่มด้อยโอกาส/ชุมชนแออัดจำนวน 1,000 คน
3.ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป/ผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 500 คน 4.กลุ่มพระสงฆ์/นักบวชจำนวน 500 คน 5.ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีน จำนวน 500 คน และต้องมีคุณสมบัติเป็นบุคคลสัญชาติไทย ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงต้องเป็นบุคคลที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขต จ.ฉะเชิงเทรา และต้องเป็นบุคคลที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 มาก่อน ซึ่งกลุ่มของผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีนนั้น
ยังได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ฉะเชิงเทรา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดอาสาสมัครในชุมชนเข้าช่วยเหลือในการลงทะเบียนให้กับผู้พิการ และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีนได้ โดยขณะนี้ระบบในการลงทะเบียนสำหรับผู้พิการนั้นยังไม่เต็ม และยังสามารถลงทะเบียนได้อีก สำหรับวัคซีนในกลุ่มอื่นๆ นั้น อบจ.ฉะเชิงเทรา อาจได้รับการจัดสรรได้มาไม่เพียงพอในครั้งนี้
ส่วนพี่น้องประชาชนทั่วไปนั้น ต้องขอให้รอการจัดสรรวัคซีนจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในครั้งต่อไปอีก ซึ่งทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง นายกิตติ ระบุในแถลงการณ์ ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบข้อมูลในการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในวันนี้ ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มของผู้พิการมีจำนวนสิทธิ์เหลือในช่วง 1-2 ชม.แรกถึง 1,940 สิทธิ์ และสิทธิ์ของพระสงฆ์และนักบวช เหลือจำนวน 85 สิทธิ์ ส่วนกลุ่มอื่นๆ มีการลงทะเบียนจนเต็มตามจำนวนโควตาทั้งหมดไปก่อนแล้ว