เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ร้านฮัวกี่ ซึ่งตั้งอยู่ ถ.กลางเมืองตัด ถ.ชวนชื่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อสำรวจบรรยากาศการซื้อขายเครื่อสังฆภัณฑ์และเทียนพรรษา เนื่องในเทศกาลวันเช้าพรรษาประจำปี 2564 โดยพบว่าบรรยากาศโดยทั่วไปเงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมา โดยมีลูกค้ามาทำการเลือกซื้ออย่างบางตา
นายศราวุฒิ ดิลกกัลยากุล อายุ 47 ปี เจ้าของร้านฮัวกี่ กล่าวว่า ปกติแล้วในช่วงนี้สินค้าจะมีขายดีอยู่ 2 รายการ คืแเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน แต่ปีนี้เห็นชัดว่าหากเป็นช่วงก่อนวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา คนจะแน่ร้านแล้วพากันเลือกซื้อสินค้าไปทำบุญแต่ปีนี้เงียบมาก
"เหตุเพราะลูกค้าน้อยคนอาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยอาจจะสภาพเศรษฐกิจไม่ดีเหมือนเดิม การทำงานไม่ดีเหมือนเดิมและที่สำคัญการล็อกดาวน์คนก็กลัวไปหมดและตัวเลขผู้ติดเชื้อก็พุ่งขึ้นจนน่ากลัว ทำให้หลายคนคนอาจจะตัดสินใจเลื่อนการทำบุญออกไปก่อน"
นายศราวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า แท้จริงแล้สช่วงเข้าพรรษาทุกคนสามารถถวายเทียนพรรษาได้ตลอด 3 เดือนนับจากวันเข้าพรรษาจนไปถึงวันออกพรรษา ซึ่งทางร้านหวังว่าอีก 1-2 เดือนสถานการณ์จุดีขึ้น คนจะกลับมาซื้อของไปทำบุญกันมากขึ้น และหาหถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงคนจะมั่นใจในการออกจากบ้าน คนก็ทำบุญน้อยลง ซึ่งจากการเปิดร้านขายสังฆภัณฑ์มา 45 ปี ปีนี้ยอดขายตกลงไปก็ว่า 80 % แล้ว
นายศราวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า แท้จริงแล้สช่วงเข้าพรรษาทุกคนสามารถถวายเทียนพรรษาได้ตลอด 3 เดือนนับจากวันเข้าพรรษาจนไปถึงวันออกพรรษา ซึ่งทางร้านหวังว่าอีก 1-2 เดือนสถานการณ์จุดีขึ้น คนจะกลับมาซื้อของไปทำบุญกันมากขึ้น และหาหถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงคนจะมั่นใจในการออกจากบ้าน คนก็ทำบุญน้อยลง ซึ่งจากการเปิดร้านขายสังฆภัณฑ์มา 45 ปี ปีนี้ยอดขายตกลงไปก็ว่า 80 % แล้ว