โควิด-19 ชลบุรีล่อแหลม ศบค.ปรับเป็นพื้นที่แดงเข้ม ด้านเมืองพัทยาหวั่นแผน Pattaya Move on เพื่อเปิดเมืองท่องเที่ยว 1 ก.ย.อาจกระทบ ด้านนายกพัทยายันต้องเดินหน้าหารือจัดทำแผนเปิดเมืองท่องเที่ยวต่อระบุต้องทำควบคู่เตรียมความพร้อมรองรับ
นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่สูงขึ้นในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จนทำให้ ศบค.ประกาศให้จังหวัดชลบุรี กับอีก 2 จังหวัดได้แก่ อยุธยา และฉะเชิง เทรา เป็นพื้นที่สีแดงเข้มหรือควบคุมสูงสุด พร้อมประกาศเคอร์ฟิวส์ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.นั้น กรณีนี้ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อแผนของเมืองพัทยาตามโครงการ Pattaya Move on ที่มีแผนจะเปิดเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งภายในวันที่ 1 กันยายนศกนี้
อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์ยังคงล่อแหลมแต่เมืองพัทยาได้หารือร่วมกับภาครัฐเอกชน สสจ.ชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าโครงการไปอย่างต่อเนื่องและควบคู่กัน โดยเน้นการจัดทำแผนการทำ SOP หรือคู่มือในการปฏิบัติการรองรับนักท่องเที่ยวของสถานประกอบการโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งแผนการจัดทำ Seal Route หรือการกำหนดโปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะต้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้ใช้บริการในสถานที่ที่ผ่านมาตรฐาน Sha+ หรือความปลอดภัยและภาคบริการที่มีการฉีดวัคซีนแล้วเกินกว่า 70 % ซึ่งขณะนี้แผนดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ จากนั้นก็จะนำส่ง คกก.ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี รวมไปถึง ศบค.และ ครม.เพื่อพิจารณาความเห็นชอบ เหมือนกับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่เปิดไปก่อนหน้านี้ อย่าง Phuket Sandbox หรือ Samui Plus เป็นต้น
สิ่งสำคัญคงจะเป็นในเรื่องของวัคซีนที่เมืองพัทยาจะต้องมีประชากรรวมทั้งภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวต่างๆที่ต้องได้รับวัคซีนเกินกว่า 70 % หรือประมาณ 9 แสนโดส จากจำนวนประชากรกว่า 4.5 แสนคน ซึ่งแม้ว่าจะได้รับวัคซีนไปแล้วบางส่วนแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคงจะต้องเฝ้าติดตามสถาน การณ์กันต่อไป...
อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์ยังคงล่อแหลมแต่เมืองพัทยาได้หารือร่วมกับภาครัฐเอกชน สสจ.ชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าโครงการไปอย่างต่อเนื่องและควบคู่กัน โดยเน้นการจัดทำแผนการทำ SOP หรือคู่มือในการปฏิบัติการรองรับนักท่องเที่ยวของสถานประกอบการโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งแผนการจัดทำ Seal Route หรือการกำหนดโปรแกรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะต้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้ใช้บริการในสถานที่ที่ผ่านมาตรฐาน Sha+ หรือความปลอดภัยและภาคบริการที่มีการฉีดวัคซีนแล้วเกินกว่า 70 % ซึ่งขณะนี้แผนดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ จากนั้นก็จะนำส่ง คกก.ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี รวมไปถึง ศบค.และ ครม.เพื่อพิจารณาความเห็นชอบ เหมือนกับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่เปิดไปก่อนหน้านี้ อย่าง Phuket Sandbox หรือ Samui Plus เป็นต้น
สิ่งสำคัญคงจะเป็นในเรื่องของวัคซีนที่เมืองพัทยาจะต้องมีประชากรรวมทั้งภาคธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวต่างๆที่ต้องได้รับวัคซีนเกินกว่า 70 % หรือประมาณ 9 แสนโดส จากจำนวนประชากรกว่า 4.5 แสนคน ซึ่งแม้ว่าจะได้รับวัคซีนไปแล้วบางส่วนแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคงจะต้องเฝ้าติดตามสถาน การณ์กันต่อไป...