เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.นครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รอง ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาพร้อมนายแพทย์วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุมครั้งที่ 115/2564 ผ่านเครือข่าย (Web Conference) โปรแกรม ZOOM ในระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดโรคติดต่อในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ นพ.วิชาญ รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 245 ราย สอบสวนโรคเป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 58 ราย แยกเป็นกรุงเทพมหานคร 33 ราย จ.ฉะเชิงเทรา 1 ราย จ.นครปฐม 6 ราย จ.ปทุมธานี 6 ราย จ.ลพบุรี 2 ราย จ.สมุทรปราการ 7 ราย จ.สมุทรสาคร 2 ราย จ.สุพรรณบุรี 1 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางกลับรักษา 154 ราย แยกเป็น กทม. 24 ราย จ.นครปฐม 1 ราย จ.ปทุมธานี 1 ราย จ.สมุทรปราการ 4 ราย จ.สมุทรปราการ 2 ราย จ.พระนครศรีอยุธยา 1 ราย และสัมผัสผู้ป่วย 154 ราย รวมยอดสะสม 3,984 ราย รักษาหาย 2,230 ราย ยังรักษาอยู่ 1,713 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย และรวมเสียชีวิตสะสม 41 ราย ความคืบหน้าการเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์ตลาดเช้าเทศบาลเมือง (ทม.) ปากช่อง แหล่งจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคขนาดใหญ่ที่สุดของ อ.ปากช่อง ไทม์ไลน์ วันที่ 7 กค. พบแม่ค้าขายปลาร้าติดเชื้อ วันที่ 18 กค. ค้นหาผู้สัมผัสเชื้อเชิงรุก แต่การตรวจไม่ครอบคลุมเป้าหมาย ทำให้เชื้อขยายวง 1 เป็นผู้ประกอบการจำหน่ายขนมจีน,ไข่,หมู,ผัก,ปลา,พริกแกง,ขนมหวาน ฯ 136 ราย วง 2 ครอบครัว 14 ราย ลูกค้า 6 ราย และวง 3 เป็นผู้ค้าเร่มารับผักสดไปขายในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว รวมติดเชื้อสะสม 157 ราย ทั้งนี้ได้กำหนดมาตรการให้ ทม.ปากช่อง ปิดพื้นที่ตลาดเช้าเป็นเวลา 14 วัน และทำความสะอาดติดต่อกัน 3 วัน โรงพยาบาลปากช่องนานา ส่งรายชื่อผู้สัมผัสเสี่ยงให้ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ระดมค้นหาเชิงรุกครั้งที่ 2 จำนวน 300 คน เร่งจัดทำทะเบียนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำมาวิเคราะห์ เฝ้าระวังและควบคุมโรค สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นผู้ประกอบการเร่ใช้รถพุ่มพวงรับสินค้าไปตระเวนขายตามแหล่งชุมชน หมู่บ้าน ทีมสอบสวนโรคไม่มีข้อมูลในการติดตามตัวแต่อย่างใด