สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “นอร์ทเวสเทิร์น เมดิซีน” สถาบันดูแลสุขภาพในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยผลการวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวัน และรับประทานผัก ทั้งในรูปแบบผักสด และผักปรุงสุก มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดลง
โดยผลวิจัยข้างต้น ซึ่งใช้ข้อมูลอ้างอิงจาก “ยูเค ไบโอแบงก์” ฐานข้อมูลชีวการแพทย์และทรัพยากรการวิจัยแห่งสหราชอาณาจักร ที่เคยศึกษาไว้เมื่อปีที่แล้วในขณะที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุว่า การดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวัน อาจช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิดได้ราวร้อยละ 10 โดยเปรียบเทียบกับผู้ที่ดื่มกาแฟน้อยกว่า 1 แก้วต่อวัน เช่นเดียวกับการรับประทานผัก (ยกเว้นมันฝรั่ง) ในปริมาณ 0.67 หน่วยบริโภคต่อวัน ก็อาจช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อได้เช่นกัน
ส่วนผู้ที่รับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์แปรรูป ในปริมาณ 0.43 หน่วยบริโภคต่อวัน กลับพบว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด
ผลการวิจัยยังพบด้วยว่า ผู้ที่ได้รับน้ำนมแม่ในช่วงวัยทารก ก็ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิดร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่เคยรับน้ำนมแม่ในช่วงวัยดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะนักวิจัยยังไม่ทราบกลไกที่แน่ชัดถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบในอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวกับไวรัสโควิด-19 ได้แต่เพียงระบุว่า กาแฟถึงแม้เป็นแหล่งคาเฟอีน แต่ก็มีสารประกอบอื่นๆ หลายสิบชนิด ที่อาจเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ข้างต้นก็เป็นได้