วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ  ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้าอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ผ่านทางสื่อออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชั่นกลุ่ม Facebook ได้จำนวน 2 คดี จับกุมผู้ต้องหารวม 4 คน พร้อมของกลาง อาวุธมือและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก คดีแรก จับกุมนายพิภพ ดาวกฤษ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนยาว AK47 ขนาดลำกล้อง 7.62 มม. (ไม่มีเลขทะเบียน) จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้น ขนาด .38 Super (เลขทะเบียน กท.175629) จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด 7.62มม. จำนวน 1 ชุด ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด .38 Super จำนวน 2 ชุด กระสุนปืน ขนาด . 38 Super จำนวน 18 นัด ซองพกอาวุธปืน ชนิดพกซ่อน จำนวน 1 ชุด รถยนต์ ยี่ห้อ Mercedes Benz รุ่น 190E สีดำ หมายเลขทะเบียน ฉษ 5328 กทม. เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา คดีที่สอง จับกุมนายธวัชชัย อุดมรักษ์ น.ส.วนิดา เชาว์ประสิทธิ์ และน.ส.นัทรีญา สุขมาก พร้อมของกลางอาวุธปืนยาว AK47 ขนาดลำกล้อง 7.62 มม. (ไม่มีเลขทะเบียน) จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืน ขนาด 7.62 มม. จำนวน 1 ชุด กระสุนปืน ขนาด 7.62 จำนวน 21 นัด อาวุธปืนสั้น ไทยประดิษฐ์ (ลูกโม่) ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 2 นัด กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 8 นัด กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักรวม 2.05 กรัม โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการเร่งรัดขับเคลื่อนการปราบปรามแก้ปัญหาการก่อเหตุอาชญากรรม มีผลกระทบต่อความสุขของพี่น้องประชาชน เป็นหนึ่งในปัญหาของชาติที่สำคัญต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และจริงจัง โดยบูรณาการกำลังทุกฝ่ายพร้อมกับหน่วยงานในทุกกองบัญชาการ ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น. ทำการสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้าอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ที่ซื้อขายออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชั่นกลุ่ม Facebook โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “พอเพียง(รักกันสายบุญ ”  ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่ม 1,324 คน กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มซื้อขายอาวุธปืนหลายอย่าง เนื่องจากสามารถ ซื้อ-ขายได้ง่าย รวดเร็ว และยากต่อการติดตาม จึงทำให้แพร่หลายอย่างรวดเร็วในกลุ่มเยาวชนและบุคคลทั่วไป  ด้วยเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนติดตาม กวดขัน เพื่อปราบปรามไม่ให้อาวุธสงครามและอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย ประกอบกับได้รับแจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วน 191 จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนพร้อมของกลาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั่ง 4 คนส่งพนักงานท้องที่ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป