เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิชัยพัฒนา โพสต์ข้อความระบุว่า ...
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน “เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ” แก่โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา
จังหวัดยะลา เป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศ และมีพรมแดนติดประเทศมาเลเซีย จังหวัดเล็กๆ แห่งนี้เป็น 1 ใน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ด้วยจำนวนคลัสเตอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นหลายแห่ง ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ด้วยเป็นจังหวัดชายแดนที่การเดินทางอาจไม่สะดวกนัก ประกอบกับเรื่องความปลอดภัย จึงทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นเสมือนที่มั่นในการรักษาคนไข้ในจังหวัดยะลา ซึ่งในยามปกติต้องดูแลผู้ป่วยทั่วไป และในยามที่โควิด-19 กำลังระบาดอยู่นี้ โรงพยาบาลต้องรับหน้าที่อย่างหนัก ปัญหาที่พบอีกประการหนึ่งคือการขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ที่ช่วยดูแลรักษาผู้ป่วย
นางสาวรุสนี แวดราแม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติงานแผนกห้องคลอด โรงพยาบาลบันนังสตา ได้ประสานมายังมูลนิธิชัยพัฒนา ว่า
“…. โรงพยาบาลเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม ในอำเภอบันนังสตา มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 500 ราย อุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมดใช้ไปกับกลุ่มผู้ป่วยโควิด หน่วยงานห้องคลอดเอง ก็มีมารดาตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิดแล้วจำนวน 5 ราย และคาดว่าจะมีเพิ่มเรื่อยๆ....ตอนนี้อุปกรณ์ monitor ทารกในครรภ์มี 1 เครื่อง ซึ่งไม่เพียงพอ เนื่องจากคนไข้รอคลอดอื่นๆ ที่ไม่ติดเชื้อ ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์แยกกัน...จึงขอความกรุณาอนุเคราะห์สนับสนุนอุปกรณ์ดังกล่าว....”
มูลนิธิชัยพัฒนา ได้ประสานไปยังคุณหมอโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อสอบถามไปยังโรงพยาบาลบันนังสตา และได้แนะนำ “เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ” ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งคนไข้ตั้งครรภ์และไม่ตั้งครรภ์
และได้นำความกราบบังคมทูลฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้พระราชทานเงินจาก “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ )” จัดซื้อเครื่องดังกล่าว พระราชทานแก่โรงพยาบาลบันนังสตา ในทันที โดยเครื่องพระราชทานนี้จะเดินทางถึงโรงพยาบาลกลางเดือนสิงหาคมนี้