เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 ก.ค.64 ที่ห้องประชุม1สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานีโดยมี นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นายดรณ์ สมิตะเกษตริน ปลัดจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ดร.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นายอำเภอลำลูกกา นายเวนิต วัฒนธำรง รองนายก อบจ.ปทุมธานี นายแพทย์ปรีดา ตั้งจิตเมธี รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ นางพรอัปสร นิลจินดา ประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี เข้าประชุมเรื่อง ให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่7206 / 2564เรื่องกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) เพิ่มเติม ตามที่จังหวัดปทุมธานี ได้มีคำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 7022/2564ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 เรื่อง กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติไปแล้ว นั้น โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่ายังไม่อาจชะลออัตราการเพิ่มของจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอาการโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มต่อเนื่อง ซึ่งมักเป็นการติดเชื้อจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในครอบครัว และชุมชน ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) ได้เสนอแนะให้จังหวัดพิจารณาสั่งปิดสถานที่หรือกิจการเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 จึงจำเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นขอมาตรการและ การบังคับใช้อย่างจริงจังเพิ่มเติมขึ้น เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุดอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒2548(ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม2564 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 10 /2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุมและพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 38/2564 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 จึงกำหนดมาตรการ ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน 2019 (โควิด - 19) ในพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ 1. ให้ปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19เป็นการชั่วคราวเพิ่มเติมจากที่ได้มีคำสั่งให้ปิดไปแล้ว ดังนี้ (1.1) สนามกีฬาทุกประเภท (ประเภทในร่ม เช่น แบดมินตัน สนามฟุตซอล บาสเก็ตบอลวอลเลย์บอล หรือประเภทกลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส) (1.2) สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน (1.3) ลานกีฬา (1.4) ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ (1.5) ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หรือหอศิลป์ (1.6) ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ (1.7) พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันแหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน (1.8) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน (1.9) ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม ร้านทำเล็บ หรือร้านสัก (1.10) สวนสาธารณะ สวนพฤกษาศาสตร์ต่าง ๆ 2. สำหรับสถานที่หรือกิจการที่มีความจำเป็นต้องเปิด ให้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขเฉพาะเพื่อการควบคุมโรคตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ดังนี้ (2.1) สถานที่รับเลี้ยงเด็ก เปิดเฉพาะสถานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงพยาบาล และที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ (2.2) สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ (2.3) ตลาดนัด เปิดเฉพาะส่วนที่ขายอาหารหรือวัตถุดิบเพื่อการบริโภค ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 51 และมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในบรรดาประกาศและคำสั่งที่ได้ออกไว้ก่อนหน้านี้ให้มีผลบังคับใช้ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งฉบับนี้ อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1)แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นสั่ง ณ วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 (นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม) ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปทุมธานี